วันที่ 15 ก.ค. เอเอฟพีรายงานเหตุการณ์สุดช็อกระหว่างการเฉลิมฉลองวันชาติฝรั่งเศส หรือวันบัสตีย์ ในเมืองนีซ ทางตอนใต้ของประเทศ หลังรถบรรทุกพุ่งชนประชาชนบนถนนพรอมเมอนาด เด ซองเกส ถนนเลียบชายหาดของเมืองท่องเที่ยวชื่อดัง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 80 ราย และอีก 50 คนได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนขับถูกวิสามัญฯ ขณะที่ทางการเมืองนีซประกาศเตือนภัย พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในเคหสถานจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาราว 23.00 น. วันที่ 14 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะแสดงดอกไม้ไฟเนื่องในวันชาติฝรั่งเศส จู่ๆ รถบรรทุกสีขาวแล่นด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าใส่ฝูงชนบนถนนพรอมเมอนาด เด ซองเกส เป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร ก่อนตำรวจจะรุดไปยังจุดเกิดเหตุ และวิสามัญฯ คนขับซึ่งยิงปืนตอบโต้เจ้าหน้าที่
ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส แถลงว่าไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าการโจมตีที่เมืองนีซมีความเป็นไปได้ของการก่อการร้าย พร้อมเรียกประชุมฉุกเฉิน และขยายการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลานาน 3 เดือน ขณะที่กระทรวงมหาดไทยแถลงว่า หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายกำลังเร่งสอบสวน โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืน และระเบิดจำนวนมาก รวมถึงเอกสารประจำตัวของชายคนขับรถที่ระบุว่าอายุ 31 ปี ถือสัญชาติฝรั่งเศส เชื้อสายตูนิเซีย ภายในรถ
ด้านประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐอเมริกา แถลงประณามอย่างยิ่งยวดว่า เป็นการก่อการร้ายที่น่าหวาดกลัว และเสนอให้ความช่วยเหลือกับฝรั่งเศสเพื่อนำตัวผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขณะที่บรรดาผู้นำในการประชุมเอเชีย-ยุโรป หรืออาเซม ที่มองโกเลีย ร่วมกันยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้แก่เหยื่อ และประณามโศกนาฏกรรมดังกล่าว
ขณะเดียวกัน น.ส.เอมิลี่ วัตกินส์ นักท่องเที่ยวผู้อยู่ในเหตุนองเลือด ให้สัมภาษณ์ว่าเห็นรถบรรทุกชนคน แต่งุนงงกับภาพตรงหน้าเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตนจำได้ว่ารถคันนั้นจอดนิ่งกับที่ แต่ผู้คนเริ่มกรีดร้องและพากันวิ่งหนีมาทางที่ตนยืนอยู่ นายรอย คัลเลย์ ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ระบุว่า “เหมือนนรกแตก” ทั้งที่ทุกคนกำลังมีความสุขและสนุกสนานกับการฉลองวันชาติ กลับมีเสียงดังกระหึ่มคล้ายระเบิดหรือรถคันใหญ่ๆ ชนกันดังขึ้น ผู้คนต่างพากันวิ่งหนีด้วยความอลหม่าน และไม่นานนักก็มีเสียงปืนดังกระหน่ำต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสเผชิญหน้ากับโศกนาฏกรรมหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมถึงเหตุนักรบกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส บุกสังหารหมู่ 130 ศพในกรุงปารีส เมื่อเดือนพ.ย.ปีก่อน ส่วนเหตุโจมตีด้วยรถนั้น เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 2557 โดยชายคนร้ายวัยราว 40 ปี ตะโกนว่า “อัลลอหุ อักบัร” ก่อนพุ่งชนผู้คนที่สัญจรไปมาบนทางเท้าในเมืองดีฌง ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 13 คน และ 1 วันให้หลัง ชายอีกคนก่อเหตุขับรถตู้ใส่ฝูงชนในเมืองนองต์ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 9 คน ส่วนคนร้ายชิงปลิดชีพระหว่างจำคุกรอการตัดสินคดี เมื่อต้นปีที่ผ่านมา