วันที่ 21 เม.ย. เดลี่เมล์ รายงานเรื่องราวชีวิตน่าสงสารของ ด.ญ.กง เหมียว เด็กหญิง 11 ขวบ ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว เมื่อเดือนมีนาคม 2560 แต่แม่บังเกิดเกล้ากลับทอดลูกสาวให้อยู่กับพ่อ เฝ้ารอคอยเห็นหน้าแม่อีกครั้งด้วยความสิ้นหวัง

ด.ญ.เหมียวเริ่มมีอาการป่วยและไข้ขึ้นสูงตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. ถูกนำตัวส่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเด็กของเมืองฮาร์บิน ทางตอนเหนือของจีน ซึ่งแพทย์วินิจฉัยพบมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลันลิมโฟบ (acute lymphoblastic leukemia, ALL) อีก 2 วันถัดมา

ขณะนี้ด.ญ.เหมียวอยู่ระหว่างรักษาตัวด้วยเคมีบำบัด ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเมืองฮาร์บิน แต่หลังการรักษาก็เกิดผลข้างเคียงจากภาวะติดเชื้อที่ปอด โดยมีนายกง เต๋อชิง พ่อบังเกิดเกล้า คอยดูแลลูกสาวนับตั้งแต่ที่ภรรยาเก่าทอดทิ้งไป

ด.ญ.เหมี่ยวเหมียวเริ่มผิดสังเกตเมื่อแม่ไม่มาเฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาล และไม่ได้รับโทรศัพท์หรือข้อความจากแม่เลย และถามพ่อว่า “พ่อคะ แม่อยู่ที่ไหนเหรอคะ”

กระทั่งแม่กลับมาเยี่ยมช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่ก็เพียงไม่กี่วันและหายไปอีก จนลูกสาวเสียใจและถามพ่อว่า “แม่ทอดทิ้งไปเพราะหนูป่วยใช่ไหมคะ” โดยสะท้อนผ่านรูปถ่ายของแม่ที่ลูกสาวฉีกออกเป็นชิ้นๆ และไม่ยอมพูดคุยกับใครอีก

รายงานระบุว่า แม่ได้ปัดความรับผิดชอบเรื่องค่ารักษาพยาบาลลูกสาวที่สูงลิบลิ่ว และตัดสินใจทิ้งครอบครัวไป จนถึงวันนี้ได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลแล้วรวมกว่า 600,000 หยวน หรือราว 3 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ต้องอาศัยยืมเพื่อนฝูง ครอบครัว และกระทั่งกู้เงินมา

ทำให้พ่อต้องดิ้นรนหาเงินจากการทำงานบนเรือ มีรายได้เพียงวันละ 400 หยวน หรือราว 2,000 บาทล่าสุดก็ไปไปทำงานในเขตก่อสร้างเพื่อหาเงินเพิ่มมาใช้หนี้ ซึ่งปู่ของด.ญ.เหมี่ยวเหมียวทำงานอยู่ด้วย ได้เงินเพิ่มอีกวันละ 200 หยวน หรือราว 1,000 บาท

ก่อนหน้านี้ นายกงยื่นขอความช่วยเหลืองทางกฎหมายต่อศาลท้องถิ่นเพื่อติดตามหาภรรยา ล่าสุด เมื่อเดือนเมษายนได้กลับมาหาครอบครัวและอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อคอยดูแลลูกสาวอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ นายกงเปิดเว็บไซต์ระดมเงินรับบริจาคสำหรับค่ารักษาพยาบาลให้ลูกสาวแล้ว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน