เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 16 ก.ค.59 พ.ต.อ.พิรุณ กลัดทอง ผกก.สภ.ลานนกา จ.นครศรีธรรมราช ได้รับการประสานจากนายกิตติพันธ์ เพชรชู นายอำเภอลานสกา ว่า ชาวบ้านได้พบหัวกะโหลกเด็กที่ในสวนผลไม้ ม.3 ต.ท่าดี อ.ลานสกา ของให้ส่งพนักงานสอบสวนเข้าทำการตรวจสอบด้วย ระบแจ้งแล้วจึงนำกำลังตำรวจชุดสอบสวน เจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าหน่วยกู้ภัยรุดเข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบเพียงหัวกะโหลกขนาดเล็ก โดยคาดว่าน่าจะเป็นกะโหลกของเด็ก เจ้าหน้าที่จึงทำการจัดเก็บไว้นอพิสูจน์อย่างละเอียด และการตรวจสอบรอบๆ บริเวณที่เกิดเหตุไม่พบชิ้นส่วนอื่นๆ แต่อย่างใด ทำให้มีการตั้งข้อสงสัยกันว่าอาจจะเป็นกะโหลกของ ด.ญ.ขวัญฤดี เพชรสุวรรณ หรือน้องแพรว อายุ 2 ขวบ ที่หายตัวไปเมื่อวันที่ 18 มี.ค.59 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในวันที่น้องแพรวหายตัวไปนั้นเป็นช่วงกลางวันขณะที่นายสงัด ดำจันทร์ อายุ 61 ปี ผู้เป็นตาของน้องแพรว นั่งดูทีวีถ่ายทอดมวยไทยภายในบ้าน ปล่อยให้น้องแพรวเที่ยววิ่งเล่นอยู่รอบๆ กระทั่งมวยเลิกนายสงัด จึงออกไปหาหลาน ปรากฏว่าไม่เจอ น้องแพรวหายตัวไปแล้ว ซึ่งทั้งพ่อแม่ปู่ย่าตายายของน้องแพรว ได้ออกตามหา พร้อมทำพิธีทางไสยศาสตร์ต่างๆ นานา จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบน้องแพรวแต่อย่างใด ขณะที่ตำรวจได้ออกติดตามช่วยเหลือตลอดมา และสันนิษฐานว่าเด็กน่าจะอยู่ในการดูแลของญาติฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เชื่อว่ายังมีชีวิตอยู่ กระทั่งมาพบหัวกะโหลกดังกล่าวในสวนผลไม้ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านน้องแพรวประมาณ 1.5 กม.
ทางด้าน พ.ต.อ.พิรุณ กลัดทอง ผกก.สภ.ลานสกา กล่าวว่า ตอนนี้ไม่สามารถฟันธงได้ว่าหัวกะโหลกดังกล่าวนั้นเป็นน้องแพรวหรือไม่ แต่ก็ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าทำการเก็บหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดแล้ว นอกจากนั้นยังทำการเก็บเนื้อเยื่อเพื่อส่งไปตรวจดีเอ็นเอว่าตรงกับพ่อแม่เด็กหรือไม่ แต่คาดว่าน่าจะเป็นหัวกะโหลกของเด็กผู้หญิงเพราะมีเส้นผมยาว ซึ่งมีความชัดเจนอย่างไรก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
