นายกฯไม่หวั่นทนาย “ยิ่งลักษณ์” ขู่ฟ้องกลับกรณีเรียกจ่ายค่าชดใช้จำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ลั่นเชื่อมั่นในกฎหมาย เผยลงพื้นที่จ.ปทุมธานีศุกร์นี้ ดูบริหารจัดการน้ำ ย้ำรัฐบาลต้องทำให้ปชช.มีน้ำกินน้ำใช้ ขอเกษตรกรอย่าเพิ่งท้อแท้

เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 15 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุเตรียมฟ้องกลับกรณีกระทรวงการคลังมีคำสั่งให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีโครงการรับจำนำข้าว เป็นเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท ว่า เรื่องของคดีเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ใครจะทำอะไรก็ทำได้ จะฟ้องตน ฟ้องใครก็ไปทำ เพราะตนเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำมาว่า ทำตามกติกาและกฎหมายทุกประการ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการลงพื้นที่จ.ปทุมธานี ในวันที่ 18 พ.ย. ว่า ถือโอกาสใช้เวลาสั้นๆไป ไม่ได้ไปเป็นวันๆ อาจเดินทางโดยรถยนต์หรือขึ้นเฮลิคอปเตอร์ลงไปเยี่ยมเยือนชาวนาชาวไร่ และไปดูการบริหารจัดการน้ำในระดับพื้นที่ ทั้งในส่วนของชลประทาน และพื้นที่เกษตรกรรม ต้องมองว่าภาครัฐได้ทำอะไรให้กับเกษตรกรบ้าง และเกษตรกรช่วยตัวเองอย่างไรบ้าง ในหลายพื้นที่มีการบริหารจัดการน้ำของตัวเองอยู่แล้ว แต่ปัญหาคือหาน้ำให้เขาได้ไหม ทุกที่เขาพร้อมที่จะบริหารจัดการ แต่หากไม่มีน้ำให้เขา ก็ทำไม่ได้ บางที่ที่มีน้ำอยู่แล้ว เขาก็จัดการตัวเอง หาเงินไปซื้อท่อต่อเอง

แต่ปัญหาของบ้านเรา น้ำไปไม่ถึงทุกที่ รัฐบาลสามารถทำให้ประชาชนมีน้ำกินน้ำใช้ได้ทั้งประเทศ ทั้งจากน้ำประปาปกติและน้ำประปาบาดาล แต่น้ำในการเกษตรจะมีปัญหา เพราะพื้นที่ที่จะทำเป็นเขตชลประทานได้ มีไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ รวมถึงพื้นที่มีความแตกต่างกันมีความต่ำ ความสูง แหล่งน้ำและการระบายน้ำก็มีปัญหา อย่างน้ำจ.กาญจนบุรี น้ำไม่สามารถขึ้นไปได้ เพราะพื้นที่สูง ต้องไปดูว่าจะแก้ปัญหากันอย่างไร จะปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์ ดูความเหมาะสมแต่ละพื้นที่

นายกฯ กล่าวว่า ขอให้พวกเราช่วยกันทำความเข้าใจว่า รัฐบาลไม่ต้องการวงจรอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่ว่ารัฐบาลไม่อยากให้เป็นหนี้เป็นสิน วันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การที่ทุกคนช่วยกันขายข้าว ซึ่งตนก็บอกว่า ไม่ใช่เฉพาะขายข้าว วันหน้าต้องขายอย่างอื่นไปด้วย พืชผัก ปลาต่างๆ อย่างเรื่องปลาที่ตนได้สั่งการให้มีการจัดหาพื้นที่ตลาด ถ้าทำอย่างนี้เงินหมุนเวียนในประเทศ เศรษฐกิจประเทศก็จะดีขึ้น ประชาชนก็จะมีรายได้ประจำวัน เกษตรกรที่ปลูกพืชผักควรที่จะต้องเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ทำพันธุ์ต่อไป

ผลผลิตส่วนหนึ่งเก็บไว้รับประทาน อีกส่วนนำไปขายเพื่อสร้างรายได้ ทั้งนี้ ต้องไปดูระบบพ่อค้าคนกลางให้มีความเข้มแข็ง โดยใช้ระบบสหกรณ์หรือรัฐวิสาหกิจชุมชน อยากให้ทุกคนเข้าใจตรงนี้ ไปบอกพี่น้องเกษตรกรว่าอย่าท้อแท้ ต้องอดทน ถ้าเราอยากไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ก็ต้องมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงบ้าง ไม่อย่างนั้น มันไปไม่ได้ วันหน้าเราจะลำบากกว่านี้

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน