กรณีนายชัยชนะ หรือ เอ็ม ศิริชาติ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาที่ทำร้ายร่างกายแฟนสาวและถ่ายคลิปไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กภายในคอนโดฯ แห่งหนึ่ง แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม หลังทราบว่าแฟนสาวมีผู้ชายอื่นมาติดพันและทำตัวห่างเหิน จึงได้ใช้กำลังบังคับ ข่มขู่ไม่ให้ออกจากห้อง โดยตร.แจ้งข้อหานายชัยชนะ 6 ข้อหา โดยนายชัยชนะหลอนหนักคิดว่าตัวเองเป็นโจ๊กเกอร์ในหนัง ยอมรับเสพยาบ้ามาก่อนลงมือทำร้ายแฟนสาว ที่ทำไปเพราะความหึงหวง อยากสั่งสอนฝ่ายหญิงและคนมาจีบให้รู้ว่าเอาจริง ที่ผ่านมาเคยทำร้ายมาแล้ว 6 ครั้ง มีทั้งปาดคอใช้มีดเตรียมควัก ลูกตา ไฟชอร์ต ด้านเหยื่อสาวยังอาการสาหัส แขน-ข้อมือหัก เตรียมส่งฝากขังศาล ตามที่เสนอข่าวไปนั้น อ่านข่าว “น้องนีต้า” เหยื่อโหดเอ็ม เคลื่อนไหว ลบรูปหวานเกลี้ยง เผยอาการบาดเจ็บ เตรียมแถลง!

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 25 เม.ย. นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พร้อมด้วย นายโสภณ แก้วล้อมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (ศปก.สค.) และนักสังคมสงเคราะห์เดินทางเข้าเยี่ยม นีต้า อายุ 21 ปี หญิงสาวผู้บาดเจ็บจากการถูกแฟนหนุ่มไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และอยู่ระหว่างการพักรักษาตัว ณ โรงพยาบาลนพรัตน์ ถนนรามอินทรา กม.13 แขวงคันนายาว เขตคันนายาว

นายเลิศปัญญา กล่าวว่า การมาเยี่ยมหญิงสาวผู้ได้รับบาดเจ็บในวันนี้ เป็นความตั้งใจที่อยากจะมาให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ จากเหตุการณ์นี้หากเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือผู้หญิงไม่ทัน ผู้หญิงอาจจะพบเจอกับความรุนแรงจนได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ และในฐานะที่ตนทำหน้าที่ในการดูแลคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิสตรี รวมถึงป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวอยู่ด้วย เห็นถึงความทุกข์ ความเจ็บปวดที่มากกว่าบาดแผลบนร่างกาย เพราะการกระทำของผู้ชายที่ถูกเรียกว่าแฟนของหญิงสาวคนนี้

นอกจากจะทำร้ายทางร่างกายของผู้หญิงด้วยความรุนแรงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้แล้ว ถือว่ามีความผิดอาญาข้อหาพยายามฆ่า และผู้ชายที่ทำร้ายน้องยังเผยแพร่ภาพเปลือยกายของน้องและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เป็นลักษณะการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กอีกด้วย ถือเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และเป็นการล่วงละเมิดสิทธิของหญิงสาว ซึ่งต้องได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายและอยู่ในภาวะที่ไม่อาจปกป้องตนเองได้

อธิบดีกรมกิจการสตรี กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้เยี่ยมน้องนีต้าแล้ว พบว่าตอนนี้อาการทั่วไปดีขึ้นมาก แต่ยังให้น้ำเกลืออยู่ ตัวน้องเองสามารถพูดคุยทักทายกับเจ้าหน้าที่ได้อย่างอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส โดยหลังจากนี้มทางพม.ก็ต้องติดต่อสอบถามไปทางญาติว่า จะต้องการความช่วยเหลือในส่วนใดบ้าง ในส่วนของทางคดีก็ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

“ผมขอขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกทำร้าย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสังคมมีการตื่นตัว ไม่ยอมรับ และไม่นิ่งเฉยต่อการกระทำความรุนแรง และขอให้ผู้หญิงหรือทุกคน เมื่อประสบกับปัญหาความรุนแรงให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ อย่าปล่อยให้คนรักหรือแฟนมีพฤติกรรมความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เพราะพฤติกรรมเหล่านี้มีกระบวนการที่สามารถแก้ไขหรือปรับปรุงได้ อย่าทนกับปัญหาโดยคิดว่าคนรักหรือแฟนจะเปลี่ยนพฤติกรรมเอง เมื่อประสบปัญหาหรือผู้ที่พบเห็นเด็กหรือสตรีถูกทำร้าย ขอให้รีบแจ้งได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม พม. โทรสายด่วน 1300 ซึ่งมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วบริการในภาวะวิกฤตตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัว ของสค. รวมทั้งบ้านพักเด็กและครอบครัวอยู่ทุกจังหวัด สามารถช่วยเหลือได้ เช่น การให้ที่พักอาศัยชั่วคราว การให้คำปรึกษาแนะนำ เพราะมนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมสิทธิ เสรีภาพ และมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกันต้องได้รับการคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชนอย่างครบถ้วนบริบูรณ์เช่นเดียวกัน” นายเลิศปัญญา กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน