เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 30 เม.ย. ร.ต.อ.หญิง ศิริภรณ์ ไทยนิยม รอง สว.สอบสวน สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต ภายในแมนชั่นแห่งหนึ่ง ซ.รามคำแหง 87 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และอาสามูลป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 6 ชั้น แบ่งเป็นห้องให้เช่า จากการตรวจสอบบริเวณหน้าห้องเลขที่ 615 ชั้นที่ 6 ที่ประตูห้องดังกล่าวพบศพ นายอัจฉริยะ แสงจันทร์แก้ว อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 ม.10 ต.นาบอน อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด ไม่สวมเสื้อ นุ่งกาเกงขาสั้นสีน้ำตาล มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่หน้าผากทะลุกกหูซ้าย 1 นัด ข้างกันมีขวานตกอยู่ 1 ด้าม นอกจากนี้ บริเวณประตูยังมีรอยยิงกระสุนทะลุไปถูกกำแพงห้องด้านขวา 2 นัด ประตูมีร่องรอยการถูกถีบจนลูกบิดพังเสียหาย ในที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงเก็บหัวกระสุนขนาด .38 จำนวน 8 หัว พร้อมตรวจหาเขม่าดินปืนและลอยนิ้วมือเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่งสถาบันนิติเวชเพื่อดำเนินการต่อไป

จากการสอบสวนนายสมภพ อุริม อายุ 32 ปี พยานให้การว่า ตนนั่งดื่มเบียร์กับนายอัจฉริยะพร้อมเพื่อนรวม 4 คน ขณะที่นั่งอยู่ก็มีเสียงเคาะประตูจากหน้าห้องดังขึ้นหลายครั้ง ก่อนมีเสียงตะโกนเสียงดังว่า “เปิดประตู กูมีเรื่องจะคุยด้วย” พวกตนทั้ง 3 คน ดูท่าไม่ดีจึงวิ่งหนีไปหลบที่ระเบียงและในห้องน้ำ ส่วนนายอัจฉริยะอยู่กลางห้องหันหน้าที่ประตูเพียงคนเดียวพร้อมถือขวานอยู่ในมือ ก่อนที่จะมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด หลังเสียงปืนสงบ คนร้ายได้ถีบประตูห้องพร้อมยิงปืนเข้ามาในห้องอีกหลายนัด จากนั้น มือปืนได้ยืนคุยกับนายอัจฉริยะพร้อมกับเอาปืนจ่อหัว และได้ไล่พวกตนออกมาจากห้อง ผ่านไปไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด พวกตนจึงรีบกลับมาดูพบนายอัจฉริยะนอนจมกองเลือดแล้ว แต่ไม่พบตัวมือปืนแต่อย่างใด จึงรีบวิ่งลงมาเพื่อแจ้งรปภ.บริเวณหน้าประตู เพื่อรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบมือปืนผู้ก่อเหตุแล้ว คือนายพงษ์พันธ์ รัตนสุวรรณ์ อายุ 33 ปี หลังจากก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟสีดำ-แดง หลบหนีไป โดยนายพงษ์พันธ์ได้มีปากเสียงทะเลาะกับแฟนสาว ซึ่งเป็นพี่สาวของนายอัจฉริยะ ก่อนที่พี่สาวโทรศัพท์หานายอัจฉริยะโดยบอกว่าจะมาขออยู่ด้วย แต่นายพงษ์พันธ์ได้แย่งโทรศัพท์ไปคุยและมีการพูดท้าทายกัน ก่อนจะวางสายโทรศัพท์ไป จากนั้น นายพงษ์พันธ์ได้ขับรถจักรยานยนต์จากบ้านพักย่านแคราย จ.นนทบุรี หายตัวไปจนมาเกิดเหตุดังกล่าว

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาเส้นทางหลบหนีของคนร้าย ก่อนทำการสอบปากคำพยานอย่างละเอียดเพื่อเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน