จากกรณีนายสุรัตน์ อรรถพิทย์ อายุ 48 ปี ขับรถยนต์ปอร์เช่ รุ่น 718 เคย์แมน สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 6 กบ 4191 กรุงเทพมหานคร ชนท้ายรถจยย. ส่งผลให้คนขับรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ ส่วนน.ส.กัลยารัตน์ รอดเอี่ยม อายุ 21 ปี คนซ้อนท้ายเสียชีวิต บริเวณ 4 แยกสุคนธสวัสดิ์ ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 29 เม.ย. ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 30 เม.ย. ที่ศาลา 4 วัดลาดปลาเค้า ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. ทางญาติได้มีการประกอบพิธีศพ น.ส.กัลยารัตน์ รอดเอี่ยม หรือน้องก้อย นักศึกษาชั้นปี 1 สาขาวิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ภายในงานมีเพื่อนร่วมชั้นเรียนและญาติร่วมงานกว่า 40 คน โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจต่อการจากไปอย่างกะทันหันของ น.ส.กัลยารัตน์ ขณะที่ในเฟซบุ๊กของพี่สาวผู้ตายก็มีบรรดาเพื่อนๆ เข้ามาแสดงความเสียใจเป็นจำนวนมากด้านนายเพชรพิทักษ์ ศรีธรรม อายุ 21 ปี เพื่อนที่มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ทราบข่าวเมื่อตอนเที่ยงคืนวันที่ 29 เม.ย. เพราะผู้ตายไลน์มาหาตั้งแต่ค่ำๆ ว่าจะออกจากบ้านพักย่านลาดปลาเค้าซอย 1 ไปซื้อชุดที่เดอะมอลล์บางกะปิ แต่ดึกมากแล้วก็ติดต่อกันไม่ได้ จึงโทรหาพี่สาวผู้ตาย จึงทราบว่าเสียชีวิตแล้ว ผู้ตายเพิ่งสอบติดจันทรเกษม และรู้ผลการประกาศรับเข้าเป็นนักศึกษา เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 29 เม.ย. กำลังจะเข้าเรียนปี 1 โดยมีกำหนดเปิดเทอมเดือน ส.ค.

นายเพชรพิทักษ์ กล่าวอีกว่า ผู้ตายจบชั้น ม.6 จากโรงเรียนประชานิเวศน์ ย่านประชาชื่น แต่ด้วยภาระหน้าที่ต่อครอบครัว จึงต้องหยุดการเรียนไว้แล้วไปทำงานธุรการ ธนาคารไทยพานิชย์ สำนักงานใหญ่ เป็นคนพูดเก่ง หน้าตาสวย สูง 168 ซม. เคยประกวดนางนพมาศ ที่กองเสนาธิการทหารบกดุสิต เมื่อปี 2559 ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 มาแล้ว และยังประกวดหลายเวที กระทั่งอายุ 21 ปี การเงินเริ่มพร้อมที่จะเรียนปริญญาตรี จึงมาสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม เพราะอยากเป็นพิธีกร อยากเป็นดารา ส่วนเพื่อนคนตายที่ถูกรถชนด้วยกัน ทราบแค่ชื่อเล่นว่า แจ็ก อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน คบกันได้ไม่นานเท่าไหร่ ด้าน น.ส.ปียาพร รอดเอี่ยม อายุ 26 ปี พี่สาวผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพขายของออนไลน์ ครอบครัวมีพี่น้อง 5 คน ผู้ตายเป็นคนที่ 2 ส่วนพ่อเป็นอัมพฤกษ์เส้นเลือดในสมองตีบมานาน 2-3 ปี แล้ว ซึ่งผู้ตายจะเป็นคนพาไปหาหมอ รพ.มงกุฏวัฒนะ ส่วนแม่แยกทางกับพ่อตั้งแต่พวกตนยังเด็กๆ งานเลี้ยงดูครอบครัวจึงตกเป็นหน้าที่ของตนและน้องสาวที่ตาย ส่วนน้องๆ อีก 3 คน อยู่กับยายและป้าที่กรุงเทพฯ แต่เราทั้ง 2 ต้องส่งให้น้องเรียน ชั้น ม.6 และชั้นประถม ซึ่งต้องหาเงินให้ได้เดือนละประมาณ 13,000 บาท เมื่อคืนเกิดเหตุผู้ตายจะออกไปซื้อชุด เพื่อสมัครทำงานพีอาร์ ร้านอาหารซอยลาดพร้าว 71 เพื่อหาเงินส่งตัวเองและน้องๆ เรียน โดยน้องสาวมาขออนุญาตแล้วว่า ทำงานธุรการเงินเดือนไม่ถึงหมื่น ต้องไปทำงานพีอาร์ ร้านอาหาร จะได้เงินเดือน 13,000 บาท

“น้องสาวเป็นคนเรียนดี นิสัยขี้อาย ขี้กลัว ใฝ่ฝันอยากเป็นนางแบบ เป็นพีอาร์ เมื่อเรียนจบใฝ่ฝันอยากซื้อบ้านให้พ่อและพี่น้องได้อยู่สบาย สำหรับอุบัติเหตุ เคยมีคนทักว่าอายุจะสั้น ให้หลีกเลี่ยงเรื่องรถ ทุกครั้งตนจะเตือนว่า ให้หาพระมาใส่ก็เตือนกันลอด ส่วนงานศพมีกำหนดสวด 3 วัน เผาวันพุธที่ 2 พ.ค.61 สำหรับคู่กรณียังไม่ได้ตกลงเกี่ยวกับค่าเสียหายแต่อย่างใด โดยคู่กรณีบอกว่ารถมีประกันให้ทางประกันภัยจัดการให้” พี่สาวผู้ตายกล่าว

ด้าน ร.ต.ท.กฤษพงษ์ พันทูม รอง สว.(สอบสวน) สน.โคกคราม เปิดเผยว่าจากการสอบปากคำเบื้องต้นนายสุรัตน์ ให้การว่าตนขับรถมาทางตรงวิ่งเลนขวาสุดผ่าน 4 แยกสุคนธสวัสดิ์ แล้วจู่ๆ มีรถจยย. คันดังกล่าวเลี้ยวขวาออกจากถนนสุคนธสวัสดิ์ แล้วมาตัดหน้ารถก่อนจะชนเข้าอย่างแรง จากนี้จะต้องตรวจสอบกล้องติดหน้ารถของปอร์เช่ และกล้องวงจรปิดบริเวณ 4 แยก เพื่อดูว่าใครเป็นฝ่ายผิดถูก หรือใครเป็นคนฝ่าสัญญาณไฟจราจร แล้วจะเรียกนายสุรัตน์ มาสอบสวนอีกครั้ง ส่วนคนเจ็บชื่อนายอัจฉริยะ พรหมศรี อายุ 20 ปี สภาพร่างกายกระโหลกศีรษะร้าว ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู ร.พ.นพรัตน์ ทางตำรวจยังไม่สามารถเข้าไปสอบปากคำได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน