แม่ใจสลาย ลูกชายวัย 15 ปี ถูก 2 คนร้ายตามประกบยิงคาปั๊มน้ำมัน เสียชีวิตคาที่ เพื่อนบาดเจ็บ คนเห็นเหตุการณ์และผู้รอดชีวิต ยืนยันมือปืนเป็นตำรวจและครู ล่าสุดตำรวจกับครูเข้ามอบตัวให้การปฏิเสธ ครอบครัวเกรงประกันตัวออกมาข่มขู่พยาน แม่ยืนยันลูกชายไม่ดื่มเหล้า ไม่เกเร ไม่เคยมีเรื่องกับใคร รับจ้างกรีดยางหาเงินช่วยครอบครัวที่ยากจน
เหตุการณ์ดังกล่าวถูกโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กและมีการแชร์กันในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจและครู ซึ่งเป็นข้าราชการทั้งคู่ แต่กลับก่อเหตุแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิงวัยรุ่นอย่างบ้าคลั่งจนมีคนบาดเจ็บและเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านผู้เสียชีวิต ที่หมู่ 8 บ้านไทร ตำบลหนองขมาร อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งศพของนายปฏิภาน ระเบียบโพธิ์ หรือ คิง อายุ 15 ปี พบนายประเสริฐ ระเบียบโพธิ์ อายุ 60 ปี และนางกัลยากร คะเรรัมย์ อายุ 43 ปี พ่อแม่ผู้เสียชีวิตอยู่ในอาการซึมเศร้า และเสียใจกับการจากไปของลูกชาย
นางกัลยากร แม่ของผู้ตาย เล่าว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อคืนวันลอยกระทงที่ผ่านมา ลูกชายกับเพื่อนนั่งรถจักรยานยนต์ซ้อนกันไป 3 คน เพื่อไปงานศพเพื่อนต่างหมู่บ้านห่างจากบ้านประมาณ 4 ก.ม. พอกลางดึกได้รับแจ้งว่าลูกชายถูกยิงเสียชีวิต
จึงรีบไปยังจุดเกิดเหตุภายในปั๊มน้ำมัน PT ห่างจากตัวอำเภอคูเมือง ประมาณ 1 ก.ม. เห็นลูกชายอยู่ในสภาพนอนหงาย เสียชีวิตแล้ว ส่วนเพื่อนอีก 2 คนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลก่อนหน้านี้ อีกคนปลอดภัย
จากการสอบถามเบื้องต้นทั้งพนักงานปั๊มและเพื่อนลูกชาย ยืนยันว่าคนก่อเหตุ คือ นายดาบตำรวจคนหนึ่งประจำสภ.คูเมือง นั่งรถจักรยานยนต์มากับครูผู้ชายโรงเรียนแถวนั้น ส่วนสาเหตุไม่มีใครทราบมาก่อน มีเพียงเด็กปั๊มเห็นตำรวจขับขี่รถจักรยานยนต์มาไล่ยิงบริเวณหน้าร้านกาแฟ แล้วตามไปประกบยิงซ้ำบริเวณหน้าห้องน้ำ โดยทั้งตำรวจและครูอยู่ในอาการมึนเมา ก่อนจะขับขี่รถออกไปอย่างใจเย็น วันต่อมาผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนได้เข้ามอบตัวที่สภ.คูเมือง พร้อมกับปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
การมอบตัวเพื่อสู้คดีดังกล่าว ครอบครัวและชาวบ้านเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นผู้รู้กฎหมาย เกรงว่าจะหาช่องว่างของกฎหมายทำให้ตัวเองหลุดพ้นคดี ต่างจากคนด้อยความรู้อย่างพวกตน อีกทั้งหากมีการประกันตัวผู้ต้องหาออกมา อาจจะมีการข่มขู่พยานผู้พบเห็นเหตุการณ์ ทำให้เสียรูปคดีได้
จึงอยากวิงวอนผู้มีความรู้เรื่องกฎหมาย มาให้คำแนะนำ และชี้แนวทางการสู้คดีให้ลูกชายและครอบครัวได้รับความเป็นธรรม ให้ผู้ก่อเหตุได้รับผลของการกระทำตามกฎหมายของเมืองไทยที่เขียนไว้อย่างเป็นธรรม เพราะลูกชายไม่เคยมีศัตรู ไม่ดื่มสุรา ขยันทำงาน ออกจากการเรียนมารับจ้างกรีดยางหาเงินช่วยพ่อแม่
ด้าน พ.ต.อ.พิศิษฎ์ ศรีสุพล ผกก.สภ.คูเมือง ยืนยันว่า หลังจากผู้เสียหายระบุตัวบุคคลชัดเจน ได้เรียกตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวน แต่ยังให้การภาคเสธ ว่าไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ เมื่อไปตรวจสอบบริเวณปั๊มไม่พบมีกล้องวงจรปิด มีเพียงพยานบุคคล
“ผู้ต้องสงสัยได้ยอมมอบตัวเพื่อต้องการต่อสู้ในทางคดีต่อไป ซึ่งก็เป็นแนวทางของกฎหมายซึ่งผู้ถูกกล่าวหาสามารถกระทำได้ ทั้งนี้ขอยืนยันว่าจะดำเนินคดีไปตามข้อกฎหมาย ตามกระบวนการโดยไม่ละเว้น เพราะทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายอยู่แล้ว ไม่มีใครช่วยใครได้หากกระทำผิดจริง”ผกก.สภ.คูเมือง กล่าว
