เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการเดินทางเข้าถวายบังคม พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
ในพระบรมมหาราชวัง โดยตั้งแต่ช่วงเช้ามีประชาชนจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยจำนวนมาก เดินทางมาต่อคิวเพื่อรอเข้าถวายบังคมพระบรมศพ แม้จะเป็นวันที่เปิดทำงานตามปกติและมีอากาศร้อนอบอ้าว แต่ประชาชนไม่ย่อท้อ โดยบางส่วนนำร่มติดตัวมาจากบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่นำเต็นท์มาตั้งเพื่อรองรับประชาชนจำนวนมาก ให้มีที่หลบแดดฝน และเป็นจุดพักคอยระหว่างต่อแถวรอเข้าถวายสักการะพระบรมศพ
ด้านการรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร รด. และอาสากู้ภัย ยังตั้งจุดคัดกรองตามประตูทางเข้ารอบพื้นที่พระบรมมหาราชวังและท้องสนามหลวง 8 จุด เพื่อตรวจกระเป๋าของบุคคลที่มาในพื้นที่อย่างเข้มงวดพร้อมทั้งตรวจบัตรประชาชน รวมทั้งหนังสือเดินทางผู้ที่จะเข้ามาภายในบริเวณโดยพระบรมมหาราชวังด้วย
อีกทั้งมีนักเรียนพยาบาลทั้งสี่เหล่าทัพ รวมทั้งลูกเสือ เนตรนารี และประชาชนที่เป็นจิตอาสา นำน้ำดื่ม อาหาร และยาเวชภัณฑ์มาแจกจ่ายให้กับประชาชน ในส่วนการดูแลรักษาความเรียบร้อยและปลอดภัยของประชาชนที่เดินทางเข้ามาถวายสักการะพระบรมศพนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารได้ตั้งจุดคัดกรองตามจุดต่างๆ บริเวณทางเข้าสนามหลวง 8 จุด อาทิ แยกท่าพระจันทร์ แยกท่าช้าง หน้าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน และที่หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์เพื่อตรวจค้นสัมภาระ ค้นร่างกาย รวมทั้งตรวจบัตรประชาชนอย่างละเอียด ส่วนนักท่องเที่ยวจะต้องถูกตรวจพาสปอร์ตเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีตำรวจม้า และสุนัขตำรวจคอยเดินลาดตระเวณตรวจตราโดยรอบพื้นที่อย่างเข้มงวดอีกด้วย
พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ทหารช่าง ของกองพันทหารช่างที่ 9 กองพลทหารราบที่ 9 จ.กาญจนบุรี ร่วมกันดำเนินการก่อสร้าง สะพานแบริ่ง หรือสะพานคนเดิมข้ามชั่วคราว บริเวณข้างโรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน ขนาดความกว้างประมาณ 2 เมตร ยาว 5 เมตร เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ล่าสุดได้ก่อสร้างเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว และเปิดให้ใช้งานตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันนี้
พล.ต.ต.ปรีชา กล่าวต่อว่า โดยในจุดนี้ เป็นจุดคัดกรองที่ 8 เพื่อรองรับประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยจัดเครื่องวอล์คทูเพิ่มอีก 3 เครื่อง รวมทั้งหมด 6 เครื่อง เพื่อสแกนและจัดเจ้าหน้าที่ตรวจค้นตัว และสัมภาระอีก 1 ชั้น เพื่อความปลอดภัย และในวันนี้คาดว่า จะมีประชาชนเดินผ่านจุดคัดกรองนี้ประมาณ 18,000 คน โดยภาพรวมยังเป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่พบปัญหาใดๆ
ขณะที่บริเวณสนามหลวง ฝั่งโซนทิศใต้ เจ้าหน้าที่ช่างจากกรมศิลปากร พร้อมด้วยทีมสถาปนิก จากสำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร ที่จะก่อสร้างพระเมรุมาศ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นำโดยนาย ชัยนันท์ พันธ์ภคไพโรจน์ นายช่างสำรวจอาวุโส ลงพื้นที่สำรวจและตรวจเช็กระดับดิน รวมถึงวัดความกว้างยาวของสนามหลวง โดยนำกล้องวัดระดับ 1 ตัว พร้อมไม้สต๊าฟมาส่องวัดระดับพื้นดิน โดยใช้จุดศูนย์กลางจากผิวถนน ก่อนวัดระดับความสูงต่ำของดิน บริเวณกลางสนามหลวงฝั่งทิศใต้ หลังจากนั้นจะรวบรวมข้อมูลจากการลงพื้นที่ และส่งข้อมูลที่วัดแล้วให้กับทีมสถาปนิก เพื่อประเมินการปรับพื้นผิวดินต่อไป ว่าจะเพิ่มหรือจะตัดเท่าไรอย่างไรบ้าง
ซึ่งจากการสำรวจจะต้องปรับพื้นที่บริเวณโซนทิศใต้ในหลายจุด และทีมสถาปนิกก็จะนำข้อมูลเข้าหารือในที่ประชุมร่วมกับรัฐบาล เพื่อวางแผนผังการก่อสร้างพระเมรุมาศต่อไป ส่วนการปักหมุดเพื่อเป็นจุดศุนย์กลางของการก่อสร้างพระเมรุมาศ จะดำเนินการเมื่อไรนั้น ต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาลอีกครั้ง ซึ่งต้องรอการวางผังการก่อสร้างพระเมรุมาศเสร็จสิ้นก่อน
