เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 17 พ.ย. นายสุนทร เฉื่อยราษฎร์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 ม.1 ต.ทองเอน อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.จักรกฤษณ์ ศรีกงพาน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ว่า ตนได้ถูกทำร้ายร่างกายจากชายไม่ทราบชื่อ หลังเกิดอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกัน แต่ไม่เสียหายมากนัก ทั้งๆที่ตนไม่ได้เป็นคนผิด แต่คู่กรณีต่างหากที่ขับรถผิดกฎจราจรย้อนศรมาชน แล้วทำกร่างลงมาทำร้ายร่างกาย และด่าด้วยคำหยาบคาย ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บแก้วหูอักเสบ และอับอายชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ แม้ว่าจะจนแต่เมื่อถูกข้าราชการรังแก แบบไม่เป็นธรรมก็จะร้องเรียนเอาเรื่องจนถึงที่สุด

นายสุนทรให้การต่อไปอีกว่า ตนมีอาชีพเก็บของเก่าและรับซื้อของเก่าไปตามหมู่บ้านเพื่อเอาไปขายเลี้ยงชีพ ก่อนเกิดเหตุ ตนขับรถสามล้อเครื่องซาเล้งตระเวนรับซื้อของเก่าไปเรื่อยๆตามถนน รอบเมืองอุดรธานี–หนองคาย ใกล้วัดหนองเหล็กน้อย ต.หมากแข้ง ระหว่างที่จอดรอเลี้ยวตรงจุดยูเทิร์น ฝั่งตรงข้ามร้านโชคบุญนำ และจอดอยู่ตรงกลางเกาะกลาง โดยที่มีรถวิ่งผ่านไปมาด้วยความเร็ว จึงได้จอดรอจังหวะรถว่างเพื่อขับข้ามไปอีกฝั่ง

จากนั้นมีรถยนต์เก๋ง ไม่ทราบยี่ห้อ สีเทา ติดตรากระทรวงมหาดไทยที่ด้านหน้าซ้าย วิ่งย้อนศรออกมาจากชุมชนโนนมะเขือ ฝั่งตรงข้าม มาด้วยความเร็วเพื่อเบี่ยงเข้าหาจุดยูเทิร์น จนเฉี่ยวชนด้านท้าย แต่รถไม่เสียหายมากนัก คนขับเป็นชายอายุประมาณ 40 ปีเศษ ลงจากรถมาแต่งกายด้วยชุดขาวข้าราชการเต็มยศ ตะโกนด่า “ไอ้เ_ีย” แล้วตรงเข้ามาตบกกหูซ้าย จนเซถลาล้มลงกับพื้น จากนั้นชายชุดขาว ได้เดินกลับไปที่รถขับออกไปอย่างเร่งรีบ

นายสุนทรให้การต่อไปอีกว่า ระหว่างที่เกิดอุบัติเหตุ ตนเห็นว่าคู่กรณีเป็นข้าราชการแต่งชุดขาวเต็มยศ อีกทั้งรถเก๋งก็มีตรากระทรวงมหาดไทย คิดในใจว่าต้องเป็นเจ้านายใหญ่โต จึงได้ยกมือไหว้ ขอโทษ รถสามล้อของตนก็ไม่เสียหาย และตนก็ไม่ได้เป็นผิด คู่กรณีเองที่ขับย้อนศรมา ผิดเต็มๆ แต่ก็ยังถูกด่าไอ้เ_ีย และตบเข้ากกหูอย่างแรงจนหูอื้อ บาดเจ็บ ไม่คิดว่าจะถูกข้าราชการ ทำร้ายคนจนๆหาเช้ากินค่ำอย่างนี้ ยืนยันจะเอาเรื่องถึงที่สุด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจะได้ขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าวเพื่อหารถคู่กรณี เพื่อเรียกตัวมาสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายกันต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน