เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 19 ก.ค. ที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ นายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายวัชระ บัวทอง เจ้าพนักงานที่ดิน จ.กระบี่ นายตรีธวัช รักษ์เมือง นายอำเภอเกาะลันตา พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวกรณีพ.ต.อ.อิทธิพล กิจสุวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมกับตำรวจสืบสวนภาค 8 และ ตำรวจ สภ.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ซ้อนแผนจับกุมตัวนายอนุสรณ์ หวังผล อายุ 49 ปี เป็นรองนายก อบต.เกาะลันตาใหญ่ หลังเจ้าหน้าที่พบหลักฐานว่ามีการเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากบริษัทเอกชนที่ซื้อที่ดินในพื้นที่หมู่ 5 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา เพื่อแลกกับการชี้แนวเขตที่ดินให้อยู่นอกเขตที่สาธารณะจำนวน 2 แปลง เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่เศษ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา
นายพินิจ กล่าวว่า ภายหลังทราบเรื่องเมื่อวานนี้ได้รายงานไปยังพล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และปลัดกระทรวงให้รับทราบแล้ว ซึ่งทางรัฐมนตรีฯก็บอกว่าเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้โดยเด็ดขาด และได้สั่งกำชับใน 3 เรื่อง คือ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ และเรื่องการคอร์รัปชั่นหรือการรับสินบน เพื่อจะบุกรุกที่สาธารณะหรือป่าสงวน ซึ่งขณะนี้มีคำสั่งให้นายอนุสรณ์ หวังผล รองนายก อบต.เกาะลันตาใหญ่ พ้นจากตำแหน่งไปแล้วตั้งแต่ช่วงค่ำเมื่อวันที่ 18 ก.ค. และได้สั่งการให้ทางที่ดินจังหวัด ตรวจสอบที่ดินในพื้นที่ ต.เกาะลันตาใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับ อบต.จำนวน 6 แปลง ที่เกี่ยวข้องกับอบต.เกาะลันตาใหญ่ ว่า ออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า จ.กระบี่ มีการเจริญเติบโตด้านการท่องเที่ยวสูง จึงเป็นที่ต้องการของนักลงทุนที่ต้องการทำธุรกิจท่องเที่ยว จึงส่งผลให้เป็นช่องทางหนึ่งในการทุจริต ซึ่งกำชับให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับการคอร์รัปชั่น และจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ส่วนกรณีของนายอนุสรณ์ที่จะมีการยื่นประกันตัวได้หรือไม่นั้น เป็นดุลพินิจของเจ้าพนักงาน ซึ่งทางผู้ต้องหามีสิทธิ์ที่จะยื่นประกันตัวออกไปสู้คดี
ด้านนายวัชระ บัวทอง เจ้าพนักงานที่ดิน จ.กระบี่ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในขณะนี้พบว่า ที่นสล.(หนังสือสำคัญที่หลวง) แปลงดังกล่าวมีเนื้อที่ 400 ไร่ ได้ขึ้นทะเบียนไว้เมื่อประมาณปี 2476 และได้มีการพยายามรังวัดเพื่อออกเอกสารหนังสือสำคัญที่หลวงมาโดยตลอด และจะรังวัดชี้แนวเขตกันในวันที่ 21 กรกฎาคม 2559 นี้ แต่พบว่ามีโฉนดที่ดินซึ่งออกให้เมื่อปี 2557 ทับซ้อนในพื้นที่ดังกล่าวรวม 6 ฉบับ เนื้อที่ประมาณ 90 ไร่ ซึ่งหลังจากชี้แนวเขตเสร็จ หากพบว่า มีการทับซ้อนก็จะเสนอทางจังหวัดเพื่อพิสูจน์สิทธิ์ หากพบว่าทับในพื้นที่ นสล. ก็จะเพื่อดำเนินการเสนอคณะกรรมการพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน