เมื่อเวลา 07.15 น. วันที่ 19 พ.ย. ที่วัดบำเพ็ญเหนือ เขตมีนบุรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายวิชาญ มีนชัยนันท์ และนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ อดีต ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ร่วมทำบุญตักบาตรและถวายสังฆทาน เพื่ออุทิศเป็นพระราชกุศลถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

s__24395784

ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เข้าสักการะพระครูอุดมจารุวรรณ เจ้าอาวาสวัดบำเพ็ญเหนือ โดยเจ้าอาวาสได้มอบเข็มกลัดรัชกาลที่ 9 เป็นที่ระลึกให้แก่น.ส.ยิ่งลักษณ์ จากนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ทำบุญตักบาตรร่วมกับประชาชน โดยก่อนหน้านั้นได้ถวายสังฆทาน พร้อมทั้งกล่าวพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2538 ความว่า “สังคมใดก็ตามถ้ามีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ด้วยความมุ่งดี มุ่งเจริญต่อกัน สังคมนั้นย่อมเดินไปด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ มีความร่มเย็นเป็นสุขน่าอยู่”

s__24395785

จากนั้น ได้นำกล่าวคำถวายภัตตาหารและใส่บาตรพระภิกษุสงฆ์จำนวน 6 รูป

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทุกภาคส่วนออกมาให้ความช่วยเหลือชาวนาเพิ่มขึ้นว่า น่ายินดีที่ทุกฝ่ายตื่นตัวช่วยเหลือชาวนา เพราะชาวนาเดือนร้อนมานานแล้ว การช่วยกันคนละนิดคนละหน่อยดีกว่าไม่ช่วยเหลืออะไรเลย ส่วนมาตรการการช่วยเหลือของรัฐ ตนมองว่ารัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือภาคการเกษตรอยู่แล้ว เพราะวันนี้มีปัญหาเรื่องราคาสินค้าตกต่ำ หากไม่มีมาตรการออกมาช่วยเหลือ ชาวนาก็จะได้รับผลกระทบ

เมื่อถามถึงภาระหนี้สินของเกษตรกรที่มีการพักหนี้ แต่ไม่พักดอกเบี้ย จะมีข้อเสนอแนะไปถึงผู้มีอำนาจอย่างไรบ้าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การช่วยเหลือเกษตรกรอยากให้ช่วยทั้งระบบ ต้องมองว่าจะทำอย่างไรให้เกษตรกรพึ่งพาตนเองได้ การพักหนี้อย่างเดียว แต่ไม่มีมาตรการช่วยเหลือก็จะไปไม่ได้

เมื่อถามว่า รัฐบาลไม่อยากให้เรียกโครงการของรัฐบาลว่าจำนำยุ้งฉาง แต่อยากให้เรียกว่าชะลอการขายข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตรงนี้เป็นความต่างในเรื่องของชื่อ แต่ตนมองว่าไม่ว่าจะเรียกอะไร จุดประสงค์คือการช่วยเหลือชาวนา และวัตถุประสงค์ของรัฐก็ไม่ได้มุ่งค้ากำไรกับชาวนา และเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องช่วยและเป็นนโยบายสาธารณะ

เมื่อถามถึงความคืบหน้ากรณีการขอทุเลาคำสั่งศาลปกครองต่อศาลปกครอง ให้ชะลอการเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่ขอลงในรายละเอียด ขณะนี้ทีมทนายความศึกษา หารือเรื่องนี้อยู่ แต่ยืนยันว่าจะต้องทำตามกรอบสูงสุดที่กฎหมายให้ไว้ หากมีรายละเอียดและขั้นตอนที่ชัดเจนในเรื่องนี้แล้ว จะเรียนให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนกรณีที่ยืนคำคัดค้านไปทุกหน่วยงานแต่ยังไม่ได้รับการตอบรับนั้น เราก็ต้องทำ หากไม่ทำก็ถือว่าไม่ได้ใช้สิทธิตามกระบวนการยุติธรรม แต่หากจะให้เป็นธรรมก็ควรจะต้องรับทุกข้อร้องเรียนไว้พิจารณาอย่างทั่วถึง เป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน