หลังนำเสนอชีวิตลุงชงป่วยโรคท้าวแสนปม ที่อาศัยอยู่เพียงลำพังในอ.เบตง จ.ยะลา ออกมาขอบคุณผู้ใจบุญช่วยเหลือ ยอดบริจาคทะลุ 2 แสนบาทเศษ ขณะที่ลุงชงอยากเดินทางมาเข้าเฝ้าฯ เพื่อกราบสักการะพระบรมศพฯนั้น หลายหน่วยงานได้เข้าให้ความช่วยเหลือนำลุงชงขึ้นมากรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. นายดำรงค์ ดีสกูล นายอำเภอเบตง จ.ยะลา พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐและเอกชน นำสิ่งของไปมอบและให้กำลังใจนายชิติ เจริญรัตนประภา หรือ “ลุงชง” อายุ 60 ปี ชาวกรุงเทพฯ ซึ่งป่วยโรคท้าวแสนปม ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 30 บ้านจับยี่ลุ่ย หมู่ 1 ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา เพียงลำพัง ลุงชงได้แสดงความตั้งใจ อยากเดินทางเข้ากราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และอยากเดินทางกลับกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นภูมิลำเนา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้มอบสิ่งของต่างๆ เพื่อใช้ในการดำรงชีวิต อีกทั้งตัวแทนจากธนาคารออมสิน สาขาเบตง ได้เปิดบัญชีออมทรัพย์และฝากเงินเบื้องต้น 1,000 บาท เพื่อให้ประชาชนที่ต้องการให้ความช่วยเหลือโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าว
โดยยอดเงินบริจาคล่าสุด ผ่านบัญชีธนาคารออมสิน สาขาเบตง เป็นเงิน 34,539 บาท และยอดเงินบริจาค ผ่านธนาคารกสิกรไทย สาขาสำเหร่ เป็นเงิน 268,782.70 บาท แล้ว
ลุงชง กล่าวว่า รู้สึกดีใจและขอขอบคุณผู้ใจบุญทุกท่าน ที่ยังมีคนให้กำลังใจต่อสู้ชีวิต โดยยังคงแสดงความตั้งใจเดิมที่จะเดินทางเข้ากราบพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่9 อย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลตำบลธารน้ำทิพย์ นำโดยนายมะอูโซะ สาลัง นายกเทศมนตรีตำบลธารน้ำทิพย์ กล่าวว่า ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลตำบลธารน้ำทิพย์ พร้อมด้วย“ลุงชง” จะเดินทางเข้าถวายบังคมพระบรมศพฯ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท โดยจะเดินทางถึงกรุงเทพฯ ช่วงเช้าวันที่ 26 พ.ย. คาดว่าไม่เกินเวลา 07.00 น. โดยรถบัสจะไปจอดที่หน้ากองสลากฯเดิม เยื้องโรงแรมรัตนโกสินทร์ จากนั้นก็จะเดินเข้าถวายสักการะพระบรมศพ และเดินทางกลับอำเภอเบตงในวันที่ 27 พ.ย.
นายชิติ เจริญรัตนประภา หรือ “ลุงชง” กล่าวอีกว่า ครั้งแรก หมดกำลังใจ ไร้ที่พึ่ง เป็นคนต่างถิ่น และยังมีโรคท้าวแสนปม ที่ใครพบเห็นเป็นต้องเดินหลบหลีกหรือรังเกียจ ครั้งแรกคิดไว้ว่าหากมีเงินตั้งใจจะเดินทางกลับไปอยู่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิม แต่ก็นึกถึงครั้งที่อยู่กรุงเทพฯ ก่อนเดินทางลงมาอยู่เบตง พร้อมเพื่อนชาวพม่า เพราะมีแต่คนรังเกียจ ขณะที่คนเบตงมีแต่คนใจโอบอ้อมอารี เผื่อแผ่ ให้การช่วยเหลือ ถึงจะต่างศาสนา ไม่ใช่ญาติ แต่ให้การช่วยเหลือเต็มที่ ทั้งภาครัฐและเอกชน จนทำให้ไม่อยากกลับไปอยู่ที่ภูมิลำเนาเดิมแล้ว เพราะหลังจากที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวทำให้มีผู้คนเดินทางมาเยี่ยม ลุงชง ไม่ขาดสาย
สำหรับผู้ที่ต้องการบริจาคเงินเพื่อให้ลุงชงได้มีชีวิตที่ดีขึ้น สามารถโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารออมสิน สาขาเบตง ชื่อบัญชี นายชิติ เจริญรัตนประภา เลขที่บัญชี 020 184 694 360 และ ธนาคารกสิกรไทย สาขาสำเหร่ เลขที่บัญชี 0091648385
