จากกรณี มีการยึดรถหรูกว่า 30 คัน มูลค่า 68 ล้านบาท ของ น.ส.วรรณภา พวงสน และ นายกร พวงสน สามี ผู้ต้องหาในคดี เมจิกสกิน โดยมีพฤติการณ์ฉ้อโกงประชาชน โดยผลิตเครื่องสำอางค์ อาหารเสริม ผิดกฎหมาย และจากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้โอนย้ายทรัพย์สินที่ได้จากการฉ้อโกงประชาชน มาซื้อรถยนต์ และยักยอกไปยังบุคคลอื่น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 พ.ค. ที่ สถานที่บริการเจ้าพระยา 3 ถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เดินทางมาสถานบริการดังกล่าว หลังได้รับแจ้งจาก นายทองพล เสงี่ยมศักดิ์ ผู้ดูแลลานจอดรถ โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่ามีรถหรู สีเหลืองขาว ป้ายแดง ทะเบียน น – 8886 กทม. เข้ามาจอดบริเวณลานจอดรถ และได้ทิ้งกุญแจรถ พร้อมกับเอกสารสำเนาคู่มือทะเบียนรถไว้ด้วย เมื่อตอนกลางดึกของวันที่ 17 พ.ค.
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบ เบื้องต้น เอกสารสำเนาคู่มือทะเบียนรถ ระบุว่า เป็นรถยนต์ หมายเลขทะเบียน 5 กฉ – 6095 กทม.ตรวจสอบทะเบียนพบ นายอภิวัส พงศ์พัฒนะนุกูล เป็นผู้ครอบครอง ซึ่งเป็น 1 ใน 7 คน ของผู้ต้องหาที่ออกหมายเรียกในคดีเมจิกสกิน ภายในรถยังพบนามบัตรของ นายอภิวัส ที่ระบุว่าเป็นกรรมการบริษัท พี โอเอส คอสเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่จ.สมุทรสาคร ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นไปเมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ผ่านมา นอกจากนี้พบสินค้าตัวอย่างเซรั่ม นามบัตรของ นายอภิวัส ซึ่งเป็นกรรมการผู้ตัดการ บริษัท พีโอเอส จำกัด ที่เราได้ไปตรวจค้น ใน จ.สมุทสาคร สมุดบัญชีธนาคาร 3 บัญชี ซึ่งมีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะทำการตรวจสอบว่าเหตุใด รถของ น.ส.วรรณภา และ นายกร พวงสน มาอยู่ในความครอบครองของ นายอภิวัส และนอกจากนี้จะตรวจสอบบุคคลใดเป็นคนนำรถมาจอด และนำมาจอดได้อย่างไร ใครเป็นเจ้าของรถตัวจริง มีการโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินหรือไม่ แต่คาดว่า นายอภิวัส กลัวจะมีความผิดฐานฟอกเงิน จึงได้นำรถมาจอดทิ้งไว้ อย่างไรก็ตาม จะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้ นายอภิวัส นั้น มีการออกหมายเรียกมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ยังไม่เข้ามารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งหากยังไม่มารายงานตัว ก็จะมีการออกหมายจับต่อไป
