จากกรณีสาวถูกมัดมือมัดเท้าด้วยเชือกไนล่อน เดินโซซัดโซเซหนีออกมาขอความช่วยเหลือริมถนนเพชรเกษม ม.3 ต.บางนอน อ.เมืองระนอง จ.ระนอง เมื่อเช้าวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยพลเมืองดีได้เข้าทำการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งอยู่ในสภาพช็อค และหวาดผวา ซึ่งหน่วยกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิระนองสงเคราะห์ได้นำตัวส่งรพ.ระนองทันที (อ่านข่าว : เหตุการณ์ระทึก! พบหญิงสาวมีเชือกมัดมือมัดเท้า หนีออกมาขอความช่วยเหลือ
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 ก.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า หญิงคนดังกล่าวเป็นบุคคลเดียวกับที่ทางญาติมาแจ้งบุคคลหายตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถสอบปากคำผู้เสียหายได้ เนื่องจากยังอยู่ในอาการหวาดผวา ต้องมีญาติเฝ้าไข้อยู่ตลอดเวลา

 


เมื่อเช้านางบุปผา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี แม่ของผู้เสียหาย ได้เดินทางมาเยี่ยมดูอาการของลูกสาววัย 33 ปีที่มีอาชีพเป็นแม่ค้าตลาดสะพานปลาระนอง โดยได้เข้าปลอบลูกสาวด้วยความห่วงใย ซึ่งผู้เสียหายยังคงนอนซม รู้สึกตัวบ้างเป็นครั้งคราว แต่ยังอยู่ในอาการช็อค ไม่ได้สติ ยังไม่สามารถพูดจาหรือจำญาติมิตรได้ หวาดผวาคนแปลกหน้าโดยเฉพาะผู้ชาย และชอบจะนอนคลุมโปง นำผ้าห่มมาคลุมทั้งตัว โดยนางบุปผาจะนำผ้าชุบน้ำมาคอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้

 


นางบุปผากล่าวว่า ลูกสาวเป็นคนมีสติสมประกอบ เป็นเสาหลักของครอบครัว ขยันทำมาหากิน ลูกสาวถูกทำร้ายร่างกาย ตรวจสอบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายเบื้องต้นพบมีอาการบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะด้านหลัง หัวปูดโน จากการถูกกระแทกกับของแข็ง และเจ็บที่หัวไหล่และบริเวณต้นแขน มีรอยช้ำ รวมทั้งบริเวณท้องน้อย ส่วนที่ข้อมือและข้อเท้ามีรอยเชือกรัดไว้แน่น

 

“อาการลูกสาวยังคงเบลอๆ และหวาดกลัวอยู่ บางครั้งรู้สึกตัวแต่บางครั้งก็ไม่รู้สึกตัว แบบว่านึกอะไรไม่ออก ลูกสาวหายออกจากบ้านไปกับรถจักรยานยนต์รับจ้างตั้งแต่คืนวันที่ 8 ก.ย.เวลาประมาณ 5 ทุ่ม หลังจากนั้นประมาณครึ่งชัวโมงโทรกลับมาหาแม่ แต่เมื่อตนโทรกลับ ไม่รับสาย และติดต่อไม่ได้ ต่อมาลูกได้โทรกลับไปหาแฟน และบอกกำลังจะกลับแล้ว กลับกับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งแฟนบอกว่าจะให้ไปรับมั้ย แต่โทรศัพท์ไม่มีเสียงตอบรับแล้ว รวมเวลาที่หายไปจนกระทั่งพบตัวรวม 4 วัน”นางบุปผากล่าว

 

 

นางบุปผากล่าว่า เมื่อเช้าวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา มีลูกค้ามาบอกว่าเห็นผู้หญิงเดินซัดโซเซ ผมเผ้ารุงรัง เมื่อน้องสาวทราบจึงชวนกันไปตามดู พอพบเห็นพี่สาวแล้ว พี่สาวอยู่ในสภาพผวา และหวาดกลัว เมื่อมีคนไปแจ้งเจ้าหน้าตำรวจและกู้ภัยให้มาช่วย ปรากฏว่าเค้ากลัวผู้ชาย เค้าต้องวิ่งหนีเข้าป่าไปจนต้องไปพาออกมา ก่อนจะส่งมารักษาตัวที่รพ.ระนอง โดยทรัพย์สินที่หายไปมีโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเงินสดที่ติดตัวประมาณ 20,000-30,000 บาท

 

เวลา 13.00 น.พ.ต.อ.สมบัติ ชุมพล ผกก.(สอบสวน)ช่วยราชการสภ.เมืองระนอง ได้เรียกร้อยเวรพนักงานสอบสวนเพื่อจะแกะรอยจากพยานหลักฐานที่ติดตัวแม่ค้าสาววัย 33 ปี ทั้งเชือก 3 เส้น ที่คนร้ายใช้มัดมือและมัดเท้า พร้อมทั้งชุดกางเกงวอร์มขายาวสีดำและเสื้อแขนยาวสีดำที่มารดาผู้เสียหายยืนยันไม่ใช่ชุดที่ใส่ในคืนที่เกิดเหตุก่อนหายตัวไป ทั้งนี้ได้มีการเรียกสารวัตรสืบสวนสภ.เมืองระนองเพื่อวางแผนในการสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายปมเหตุ

 

พ.ต.อ.สมบัติกล่าวว่า คดีนี้หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุได้ให้ทางพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นสารวัตรเวรได้ลงไปประสานกับทางญาติของน้องผู้หญิงที่พบตัวว่ามีเชือกผูกข้อมือและข้อเท้า ซึ่งขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่รพ.ระนอง และประสานกับทางแพทย์ว่ามีการถูกทำร้ายร่างกายหรือถูกล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่ พร้อมทั้งประสานทางชุดสืบสวนให้ลงพื้นที่ตรวจสอบตรงจุดเกิดเหตุว่าในวันที่ 12 ก.ย.ที่พบตัวผู้เสียหายนั้นเชือกได้มาผูกมัดข้อมือมัดข้อเท้าได้อย่างไร และเพื่อพิสูจน์ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับน้องได้อย่างไร ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมจะนำมาเรียนให้ทราบต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน