เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 พ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ พร้อมด้วยนายวุฒิกร หมอนอิง น้องชายของ น.ส.พิมลวรรณ หมอนอิง อายุ 31 ปี ที่เสียชีวิตหลังรับประทานอาหารเสริมลดความอ้วนยี่ห้อลีน (Lyn) และตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์จำนวนกว่า 40 ราย เดินทางเข้าพบพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เพื่อเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับเจ้าของบริษัทที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ พร้อมกันนี้ตัวแทนจำหน่ายได้แสดงความเสียใจและมอบเงินจำนวนหนึ่งช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต แม้ว่าจะไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงก็ตามแต่ก็รู้สึกเสียใจ
ทนายรณรงค์ กล่าวว่า อยากเรียกร้องไปยัง ผบ.ตร. ขอให้มีการตรวจสอบย้อนหลัง ว่ามีพื้นที่ใดมีผู้เสียชีวิต จากการกินลีนแล้วเสียชีวิตอีกหรือไม่ เนื่องจากมีการขายมานานกว่า 2 ปีแล้ว จึงเชื่อว่าน่าจะมีคนกินลีนแล้วเสียชีวิตอีก โดยขอให้มีการดำเนินคดีกับเจ้าของและผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศข้อหาฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากกลุ่มบุคลลเหล่านี้ไม่ควรร่ำรวยขณะที่มีคนตายและอาหารเสริมในประเทศไม่ควรมีใครกินแล้วต้องเสียชีวิต โดยล่าสุดยังทราบว่ามีการไปฉลองยอดขายกันที่ฮ่องกงทั้งที่มีผู้เสียชีวิตจากการกินลีนด้วย จึงเกรงว่าจะมีการวิ่งเต้นล้มคดีดังกล่าว เนื่องจากยังไม่มีการแจ้งข้อหากับเจ้าของบริษัท
ด้าน นายพีรยศ อินทรพล พร้อมตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลีนอีกกว่า 40 คน ได้เดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ เนื่องจากไม่ทราบว่าในผลิตภัณฑ์ลีนมีสารอันตราย เพราะก่อนสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย ทางบริษัทอ้างว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าว มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ และก่อนขายได้ลองกินเองและให้ครอบครัวกิน ตอนแรกไม่มีผลข้างเคียง และน้ำหนักลดจริง
นายพีรยศ กล่าวต่อว่า แต่เมื่อทราบว่ามีสารอันตรายจึงเลิกขาย พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องให้บริษัทคืนเงินให้กับตัวแทนจำหน่าย หลังจากได้เรียกคืนผลิตภัณฑ์ทั้งหมดคืน แต่สัญญาว่าจะคืนเงินแต่ยังไม่ยอมคืนเงินแต่อย่างใด ซึ่งตัวแทนแต่ละคนเสียเงินตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักล้าน รวมมูลค่าความเสียหายตัวแทนทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท โดยตัวแทนทั่วประเทศมีจำนวนกว่า 35,000 คน
ต่อมาเวลา 09.59 น. พล.ต.อ.วิระชัย ได้มารับหนังสือร้องเรียนพร้อมกล่าวว่า ตำรวจมีข้อมูลของผู้ผลิตและผู้จำหน่ายคือ น.ส.หญิง แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ยืนยันตำรวจมีการติดตามกลุ่มเหล่านี้ตลอดเวลา คาดว่ายังอยู่ในประเทศ ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐาน มีการสอบปากคำเพิ่มเติมไปแล้วหลายราย เชื่อว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจนเรื่องการขออนุมัติศาลออกหมายจับ เบื้องต้นอย่างต่ำ 2 ราย ภายในสัปดาห์นี้