30 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศช่วงเช้าที่ผ่านมา บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีกลุ่มอดีตแกนนำ กปปส. และผู้ศรัทธาเดินทางเข้าเยี่ยมอดีตพระพุทธอิสระ อาทิ นายมหัศจักร โสดี ทีมทนายความ พร้อม นายแพทย์ระวี มาศฉมาดล แกนนำกองทัพประชาชนและเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย (กค ป.) หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ นายทศพล แก้วทิมา โฆษกพรรคพลังธรรมใหม่ และ น.ส.อัญชลี ไพรรีรัตน์ อดีตแกนนำ กปปส.

โดยเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 พ.ค. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แขวงลาดยาว เขตจตุจักร
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และ นายชุมพล จุลใส หรือลูกหมี อดีตกลุ่มแกนนำ กปปส. เดินทางเข้าเยี่ยมอดีตพระพุทธะอิสระ หรือ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งถูกคุมขังระหว่างการสอบสวนในคดีอั้งยี่ ซ่องโจร และคดีปลอมพระปรมาภิไธย

นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในวันนี้ได้ตั้งใจเดินทางมาเยี่ยมอดีตพระพุทธะอิสระ ที่เคยเป็นผู้ที่ร่วมต่อสู้เพื่อชาติและบ้านเมือง เมื่อท่านมีคดีอย่างนี้ก็ตั้งใจมาเยี่ยมเยียนไต่ถามทุกข์สุข ว่าเป็นอย่างไรบ้างด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ในส่วนของคดีทางอดีตพระพุทธะอิสะก็มีทีมทนายเป็นผู้ดำเนินการอยู่แล้ว ขณะที่กรณีที่ตำรวจกองปราบเข้าไปบุกจับท่าน การกระทำของฝ่ายตำรวจเองเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและมีหลายเรื่องที่น่าสงสัยว่าทำไมต้องทำขนาดนี้

ต่อมาเวลา 10.00 น. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย เปิดเผยหลังเข้าเยี่ยมว่า ตนก็จะยังเรียกท่านว่าหลวงปู่ ซึ่งหลวงปู่บอกว่า ตนยังมีกำลังใจที่ดีเสมอ และอย่าไปตำหนิรัฐบาลคสช. ควรให้กำลังใจรัฐบาล ซึ่งท่านเองก็ยังสนับสนุนให้รัฐบาล คสช.ทำงานต่อไป และท่านได้ฝากบอกถึงลูกศิษย์หรือคนที่อยากช่วยด้วยการเดินทางไปศาลปกครองหรือที่ศาลรัฐธรรมนูญ ท่านบอกไม่ต้อง ท่านสละสิทธิที่จะต่อสู้ทางข้อกฎหมาย และยินดีที่อยู่ในเรือนจำและต่อสู้ตามแนวทางของท่านและจะไม่ใช้สิทธิขอประกันตัว ซึ่งครั้งนี้เหมือนเป็นสงครามครั้งสุดท้ายที่จะจัดการปฎิรูปวงการสงฆ์ให้ดีขึ้น ซึ่งทางลูกศิษย์ก็จะเคารพเจตนารมณ์ โดยรวมแล้วท่านยังมีกำลังใจที่เข้มแข็งดี และไม่อยากเอาเรื่องของท่านไปทำให้คสช. และรัฐบาลไม่สบายใจ ให้เขาจัดการปฏิรูปวงการสงฆ์ให้ดีขึ้นให้เป็นที่ศรัทธาของพุทธศานิกชนต่อไป

เวลา 10.30 น. นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตแกนนำ กปปส. กล่าวหลังเข้าเยี่ยม ว่า อดีตพระพุทธะอิสระป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทตนจึงเดินทางมาเยี่ยมจากการพูดคุยกับท่านทราบว่าคืนแรกนอนไม่ค่อยหลับเพราะยังไม่คุ้นเคยกับสถานที่จึงนอนตะแคง ทำให้เกิดการกดทับและทำให้อักเสบ ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งไปตรวจอาการที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์พร้อมทำกายภาพบำบัด จากนั้นในคืนต่อมาท่านเปลี่ยนท่าเป็นนอนคว่ำทำให้มีอาการป่วยดีขึ้น และขณะนี้ท่านมีสีหน้าสดชื่นแจ่มใส เริ่มปรับตัวเข้ากับสภาพภายในเรือนจำได้มากขึ้น ส่วนกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรนั้น ตนคิดว่าเป็นการฟ้องซ้ำ เนื่องจากอดีตพระพุทธะอิสระและแกนนำ กปปส.ทุกคนที่ชุมนุมที่แจ้งวัฒนะโดนแจ้งข้อหาดังกล่าวร่วมกันทั้งหมด จึงเป็นการฟ้องซ้ำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน