เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 30 พ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กองการต่างประเทศ ตัวแทนจากสถานทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย ร่วมกันแถลงผลจับกุมนายเชียก บุน วอง อายุ 36 ปี สัญชาติมาเลเซีย ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียที่ก่อเหตุอาชญากรรมใช้มีดแทงและขับรถทับคู่อริจนเสียชีวิต แล้วหลบหนีมากบดานประเทศไทย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2560 ภายในปั้มน้ำมันรัฐยะโฮร์บารู ประเทศมาเลเซีย โดยก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตพร้อมภรรยาได้แวะจอดรถที่สถานีบริการน้ำมันดังกล่าว หลังจากนั้นมีกลุ่มผู้ต้องหาขับรถยนต์ ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีขาว มาจอดใกล้กับรถของผู้เสียชีวิต จากนั้น ก็ได้เข้ามารุมทำร้ายใช้มีดแทง และขับรถทับร่างจนเสียชีวิต จากนั้น ผู้ต้องหาทั้งหมดได้หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซีย ออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดทั้งสิ้น 9 ราย สามารถจับกุมได้แล้ว 8 ราย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงจับกุมผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า โดยสาเหตุการฆาตกรรมครั้งนั้น มาจากการทวงหนี้ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2 ล้านบาท และขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ ส่วนนายเชียก บุน วอง เป็นผู้ต้องหารายสุดท้ายที่หลบหนีเข้ามายังประเทศไทย ก่อนจะบวชเป็นพระภิกษุอยู่ในพื้นที่อ.รีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ภายหลังลาสิกขาได้หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจะสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหารายดังกล่าวเป็นหัวหน้าขบวนการ เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2560
สรุปผลการปฏิบัติการจับกุมหัวหน้าแก๊งมาเฟียมาเลเซีย
รอง ผบช.ทท. กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่าอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือโอเวอร์สเตย์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินคดีในประเทศไทยก่อน จึงจะสามารถผลักดันกลับประเทศมาเลเซียได้ แต่จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังไม่พบว่านายเชียก บุน วอง เคยกระทำความผิดมาก่อน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. สอบผู้ต้องหา
