จากกรณี ดาราสาว นุ๊ก สุทธิดา ถูกโจรขโมยขึ้นบ้านกวาดทรัพย์สิน กระเป๋าแบรนด์เนม มูลค่านับล้านไปนั้น

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 30 พ.ค. ที่ สน.วังทองหลาง พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิชัย ศรีโสภาเจริญรัตน์ ผกก.สน.วังทองหลาง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วังทองหลาง ร่วมกันแถลงจับกุมผู้ต้องหา ลักทรัพย์​ นายวัชรินทร์ ทองอนันต์ หรือไอซ์ อายุ 26 พร้อมของกลางทองรูปพรรณ เงินสดสกุลต่างๆ นาฬิกาข้อมือกระเป๋าสะพายผู้หญิงยี่ห้อหลุยส์ วิตตอง และของกลางอื่นๆอีกหลายรายการ โดยจับกุมได้ที่บริเวณภายในหมู่บ้านอารีย์ บุษบา ซอยลาดพร้าว 130 เมื่อวันที่ 29 พ.ค.

พล.ต.ต.ธีระพงษ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ภายในบ้านพัก ย่านลาดพร้าว ทั้งหมด 5 หลัง 1.วันที่ 22 เม.ย.61 บ้านเลขที่185/160 หมู่บ้านดิ คอนเน็ต ซอยลาดพร้าว126 ได้ลักเอาตุ้มหู นาฬิกายี่ห้อมิโด้ สีเงินจำนวน 1 เรือน และนาฬิกาฟอลซิลสีทอง 1 เรือน 2.วันที่ 23 พ.ค.61 เวลาประมาณ 13.30 น. บ้านเลขที่ 154/2 หมู่บ้านกรองทองซอยลาดพร้าว126 ได้ลักเอากระเป๋าสะพายยี่ห้อพราด้า ธนบัตรฉบับละ 20 บาท ราคารวม 2,000 บาท 3.วันที่ 26 พ.ค.61 ก่อนเวลา 12.00 น.ได้เข้าไปลักทรัพย์ที่บ้านเลขที่ 529/53 หมู่บ้านอารีย์ ซอยลาดพร้าว 130 แต่ไม่ได้ทรัพย์สินแต่อย่างใด

นุ๊ก สุทธิดา เดินทางมาดูของกลาง

“ 4.วันที่26 พ.ค.61 เวลาประมาณ 13.00น. ที่บ้านเลขที่ 193/2 ซอยลาดพร้าว126 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลางซึ่งเป็นบ้านพักของ น.ส.สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยาหรือ นุ๊ก โดยได้กระเป๋ายี่ห้อหลุยส์ 12 ใบ และเงินสดจำนวน 20,000 บาท 5.วันที่ 27 พ.ค.61 เวลา 12.00-13.00น.ได้ก่อเหตุที่บ้านเลขที่ 270/41 หมู่บ้านรอยัลพาร์ค ผู้เสียหายชื่อนางธิติมานันท์ น้ำเงินพัฒน์ ได้นาฬิกาเทคฮอยเออร์ 1 เรือน เงินสกุลต่างๆประมาณ 60,000 บาท นาฬิกาจาคอป 1 เรือน แต่คนร้ายได้ทิ้งลงคลองหลังก่อเหตุ สร้อยเพชร 1 เส้น สร้อยทองพร้อมหยก 1 เส้น สร้อยไข่มุกและอื่นๆอีกมากมาย “
พล.ต.ต.ธีระพงษ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหารายนี้มีพฤติการณ์ที่จะเดินสังเกตว่าบ้านหลังใดบ้างที่ไม่มีกล้องวงจรปิด ไม่มีคนอยู่บ้าน ไม่มีสุนัข และเป็นบ้านที่อยู่ริมคลอง ผู้ต้องหามีกำลังเยอะ จะใช้แรงปีนขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านเพื่อก่อเหตุ ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ต้องหาจะลักทรัพย์เป็นของใช้ผู้หญิง กระเป๋าแบรนด์เนม เงินสด เพื่อนำไปขายต่อ เนื่องจาก ผู้ต้องมีความรู้เรื่องกระเป๋าแบรนด์เนม ทราบว่ากระเป๋าใบไหน นำไปขายแล้วจะได้ราคาดี

พล.ต.ต.ธีระพงษ์ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยพฤติการณ์การก่อเหตุจะใช้วิธีการเดินเท้าดูตามบ้านของเหยื่อ หากบ้านไหนไม่มีคนอาศัยหรือเลี้ยงสุนัข ก็จะเข้าบ้านหลังดังกล่าวและปีนระเบียงขึ้นไปชั้น2 ของบ้านเพื่อใช้ไขควงงัดตามบานพับประตู หน้าต่าง และเข้าไปงัดทรัพย์สินของผู้เสียหาย โดยก่อนหน้านี้มีอาชีพเป็นช่างเสริมสวยย่านบางกะปิ แต่เนื่องจากต้องการใช้เงินสำหรับชีวิตประจำวันและเสริมความงาม

“ โดยหลังจากเกิดเหตุเช่นนี้ ก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่จำรวจทุกพื้นที่ที่มีความเสี่ยงให้เน้นตรวจตามจุดเสี่ยงต่างๆ และ ประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของแต่ละหมู่บ้านให้ตรวจตราพื้นที่ภายในหมู่บ้านและพื้นที่รับผิดชอบของตนเองให้อย่างละเอียด รอบคอบ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน “ พล.ต.ต.ธีระพงษ์ กล่าว

ด้าน น.ส.สุทธิดา กล่าวว่า โดยรวมแล้วของมีค่าที่หายไปนั้น ส่วนเป็นเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมและเงินสดที่อยู่ภายในกระเป๋า ประมาณ 20,000 บาท สำหรับตนแล้วตนเห็นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของนอกกาย เป็นของที่ไม่ค่อยได้ใช้ แต่สำหรับผู้เสียหายรายอื่น ตนรู้สึกสงสารเนื่องจากบางบ้าน สิ่งของที่หายไปนั้นเป็นของที่มีคุณค่าทางจิตใจ ซึ่งยังไม่ได้คืน

“ เหตุการณ์นี้ทำให้ตนรู้ว่า ระมัดระวังความปลอดภัยมากขึ้น ยุคนี้โจรค่อนข้างเยอะ จะไปพึ่งแต่ตำรวจไม่ได้ ก็ต้องพึ่งตนเองด้วย โดยอาจจะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด รวมไปถึงทำประกันภัยไว้ด้วย ซึ่งแต่เดิมบ้านของตนมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้ว แต่ภายหลังกล้องวงจรปิดพัง ตนจึงชะล่าใจ ตอนนี้บ้านของตนเลยต้องติดกล้องวงจรปิดใหม่ “

น.ส.สุทธิดา กล่าวว่า จากการคุยกับผู้ต้องหา ผู้ต้องหาก็ร้องไห้ไม่หยุดตนก็รู้สึกสงสาร เพราะโทษค่อยข้างรุนแรง และเป็นการรับโทษต่างกรรม ต่างวาระ ผู้ต้องหาร้องไห้ พร้อมขอโทษและบอกตนว่า เป็นการก่อเหตุครั้งแรก ไม่ทราบว่าเป็นบ้านของตน ถ้าหากรู้ ก็จะไม่ทำ ตนจึงกอด แล้วพูดว่า “ไม่เสียดายของที่ขโมยไป แต่เสียดายชีวิตเธอที่ใช้ชีวิตแบบนี้ ตนให้อภัยและไม่โกรธ แต่อย่าทำอีก “

น.ส.สุทธิดา กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ตนได้เห็นภาพจากที่ตำรวจ ตนรู้สึกเสียใจ ที่ผู้ต้องหาทำแบบนี้ เพราะ สภาพห้องของผู้ต้องหา อยู่สบาย ห้องมีแอร์ สภาพไม่ลำบาก แต่ทำไมถึงตัดสินใจทำลายชีวิตตัวเอง

“ สุดท้ายนี้อยากเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนบ้านผู้เสียหายที่ถูกลักทรัพย์เหมือนกับตน แต่เสียหายมากกว่าตนหลายเท่า บางรายไม่ได้คืน และอยากขอบคุณ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง ที่ปฏิบัติงานอย่างรวดเร็ว “ น.ส.สุทธิดา กล่าว

ด้านผู้เสียหายรายหนึ่ง กล่าวว่า ปกติแล้วตนไม่ค่อยอาศัยอยู่ที่บ้าน เนื่องจากไปทำงานที่ต่างประเทศบ่อยครั้ง แต่เมื่อกลับมา แม่บ้านแจ้งว่า ที่บ้านโดนลักทรัพย์ ตนก็รีบกลับทันที โดยบ้านของตนถูกลักทรัพย์จำพวก เงินสด สร้อยทอง และนาฬิกาหลายเรือน และมีเรือนที่ตนรักมากที่สุด ต้องเก็บเงินซื้อในราคา 1,200,000 บาท หายไป โดยผู้ต้องหาบอกว่า ไม่ทราบว่าเป็นนาฬิกาแบรนด์เนมจึงได้โยนทิ้งไป ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าทิ้งที่ไหน ตนรู้สึกโกรธมาก แต่ก็ไม่ทราบว่าจะไปหานาฬิกาที่ไหน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำอีกครั้ง ถึงทรัพย์สินของผู้เสียหายที่สูญหายไป ว่านำไปซ่อนไว้ที่ไหนอีกบ้าง ก่อนจะนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ และจะนำตัวไปฝากขังที่ ศาลอาญารัชดา ในข้อหา ลักทรัพย์ 5 คดี ต่างกรรมต่าวาระ เนื่องจากผู้ต้องหาได้ตระเวนลักทรัพย์จำนวนหลายหลัง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน