จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวข่มขู่ 3 พนักงานขนเงิน ที่กำลังเอาเงินใส่ตู้เอทีเอ็มแบงก์กรุงไทย ในปั๊มน้ำมัน ปตท. ริมถนนสายสองพี่น้อง-ลาดบัวหลวง ต.บางเลน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ชิงเงิน 5 ล้านบาทหลบหนีไปอย่างอุกอาจ ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีได้จับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน คือ ส.ต.ต.วิฑูรย์ เพ็ชรปานกัน ผบ.หมู่ สืบสวน สภ.บ้านบึง ชลบุรี ได้ที่ห้องพักภายในเขตเทศบาลเมืองบ้านบึงในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา
เบื้องต้นตำรวจชุดคลี่คลายคดีสืบสวนแกะรอยจากโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายทิ้งไว้ที่เกิดเหตุ ซึ่งตรวจสอบเบอร์พบว่าเป็นของหญิงสาวคนหนึ่ง สอบสวนพบว่าไม่เกี่ยวกับการปล้น และไม่รู้ว่ามือถือเครื่องนี้เป็นของใคร แต่ตำรวจตรวจสอบเอกสารผู้ลงทะเบียน พบว่าส.ต.ต.วิฑูรย์เป็นผู้คัดทะเบียนราษฎร์ (ทร.14) ของผู้หญิงคนดังกล่าว จึงนำมาสู่การติดตามจับกุมตัว
ส.ต.ต.วิฑูรย์ ซึ่งเพิ่งได้รับรางวัลตำรวจฝ่ายสืบสวนดีเด่นจากต้นสังกัด ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้คัดทะเบียนราษฎร์ (ทร.14) ของผู้หญิงคนดังกล่าว แล้วนำไปให้กับนายชัยเดช เพ็ชรปานกัน พี่ชาย ไปยื่นเพื่อขอเปิดซิมมือถือเครื่องดังกล่าว
สตต.วิฑูรย์ คนวางแผน
ส.ต.ต.วิฑูรย์สารภาพอีกว่า เป็นผู้วางแผนการในคดีนี้ โดยมีคนร่วมทีมปล้นครั้งนี้ 6 คน คนดูต้นทางคือนายเปี๊ยก ซึ่งเป็นเพื่อนของนายชัยเดช พี่ชาย ไปเปิดซุ้มขายของ(ป๊อปคอร์น) ในปั๊มปตท. เพื่อคอยดูต้นทาง ขณะที่เจ้าหน้าที่ธนาคารมาเติมเงินในตู้เอทีเอ็ม จากนั้นวันที่ 6 พ.ย. ตนกับนายเชาว์ขับรถเก๋งซีวิค สีบอนซ์ทอง ไปซื้อโทรศัพท์เพื่อใช้ก่อเหตุเฉพาะกิจในครั้งนี้
ส.ต.ต.วิฑูรย์กล่าวว่าใช้หมายเลขบัตรประชาชนของผู้หญิงคนหนึ่งไปซื้อโทรศัพท์พร้อมซิมการ์ด เพราะต้องการใช้มือถือเครื่องนี้อำพรางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตาม โดยวางแผนว่าใช้โทรศัพท์เครื่องนี้โทรหาคนที่ไม่ถูกกัน และขณะก่อเหตุจะทิ้งเครื่องโทรศัพท์ไว้อำพราง ส่วนปืนเป็นปืน CZ 9 ม.ม. โดยตนไปเอาปืนมาจากนายตูนแล้วนำไปให้กับนายชัยเดช พี่ชาย ใช้ในการลงมือปล้นเงิน
ส.ต.ต.วิฑูรย์กล่าวด้วยว่า ช่วงก่อนก่อเหตุจะให้นายชัยเดชเตรียมตัวซุ่มอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามปั๊มปตท. โดยใส่เสื้อเกราะของตน และรอนายเปี๊ยกส่งสัญญาณด้วยการโทรศัพท์แจ้งเข้ามา หลังลงมือปล้นเงินแล้ว ตนได้กลับไปที่บ้านคุยกับนายชัยเดช พี่ชาย ก่อนแยกกันหลบหนี ส่วนเงิน 5 ล้านนั้น นายชัยเดชซุกซ่อนไว้ในป่าหลังบ้านเมียนายชัยเดช ด้านหลังโรงเจดอนมะนาว
อย่างไรก็ตาม ทางกองบรรณาธิการข่าวสดต้องขออภัย เนื่องจากในข่าวดังกล่าวเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนจนลงภาพของชายในภาพนี้ ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่นายชัยเดช เพ็ชรปานกัน พี่ชายของส.ต.ต.วิฑูรย์แต่อย่างใด จึงต้องขออภัยอย่างสูง
ประกาศขออภัยชายในภาพนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีนี้ และไม่ใช่นายชัยเดช เพ็ชรปานกัน
