จากกรณีรายงานข่าวจากตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ขณะนี้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบการทุจริตงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนา ล็อตที่ 4 ช่วง พ.ศ.2554 -2559 โดยมีเป้าหมาย 60 วัดทั่วประเทศ ขณะนี้ตรวจสอบไปแล้ว 40 วัด พบเข้าข่ายทุจริต 30 วัด และกำลังดำเนินการตรวจสอบวัดเป้าหมายที่เหลือ ซึ่งมีวัดที่มีชื่อเสียงในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางซึ่งเป็นวัดไม่เคยปรากฏในรายชื่อจากการดำเนินคดีทุจริตเงินทอนวัด ล็อต 1-3 มาก่อน และผู้เกี่ยวข้องเป็นพระสงฆ์ระดับเจ้าคณะอำเภอ เจ้าอาวาส รวมถึงข้าราชการของ พศ.

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 พ.ค. ที่ห้องออดิทอเรียม ชั้น 2 โรงแรมเซ็นทราบายเซ็นทาราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะพล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนดำเนินคดีทุจริตเงินทอนวัดล็อต 4 ว่า ขณะนี้บก.ปปป. อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบวัดทั่วประเทศที่ได้รับงบประมาณจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มากกว่า 1 ล้านบาท ในช่วงปี 2555-2560

เบื้องต้นพบการกระทำความผิดบ้างแล้ว แต่ต้องรอให้พ.ต.ต.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เข้าร้องทุกข์กับ บก.ปปป. ให้ชัดเจนก่อน โดยขณะนี้ยังไม่ได้ร้องทุกข์ใดๆ แต่ที่ผ่านมา บก.ปปป. ก็ประสานข้อมูลกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมาโดยตลอด โดยล็อตนี้ยังคงเน้นการดำเนินคดีกับกลุ่มข้าราชการที่ทุจริตเงินของรัฐเป็นหลัก ผู้ที่กระทำความผิดส่วนใหญ่ยังคงเป็นข้าราชการของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่ดำรงตำแหน่งในช่วงปี 2555-2560 ซึ่งถูกดำเนินคดีไปแล้วจากคดีทุจริตเงินทอนวัดก่อนหน้านี้ เพราะเป็นผู้มีอำนาจในการเบิกจ่ายและโอนเงินในช่วงดังกล่าว ทั้งนี้ล็อตนี้อาจยังไม่ใช่ล็อตสุดท้ายที่จะถูกดำเนินคดี เพราะบก.ปปป. จะต้องตรวจสอบไปจนกว่าจะไม่พบวัดที่กระทำความผิด

ผบก.ปปป. กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. โอนสำนวนคดีเงินทอนวัด ล็อต 2 กลับมาให้ บก.ปปป.ดำเนินการนั้น เป็นเรื่องที่ดีที่ป.ป.ช. มองเห็นศักยภาพการทำงานของ บก.ปปป. อีกทั้งยังเป็นอำนาจหน้าที่ที่ บก.ปปป. จะดำเนินการได้ ซึ่งหลังจากรับสำนวนกลับมาแล้ว บก.ปปป.ก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยการส่งสำนวนให้กับอัยการพิจารณาได้ทันที

“สำหรับคดีเงินทอนวัด มีการดำเนินการไปแล้ว 3 ล็อต มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 340 ล้านบาท และเป็นการตรวจสอบทุจริตงบใน 3 งบประมาณ คืองบบูรณะปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัด งบอุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม โดยวัดสระเกศราชวรมหาวิหารที่ถูกดำเนินคดีในล็อตที่ 3 นี้ ถือเป็นการทุจริตงบสูงที่สุดกว่า 150 ล้านบาท” ผบก.ปปป. กล่าว

“ขณะนี้ก็พอจะเห็นผลบ้างแล้วพอสมควรที่จะเห็นชัดเจนก็คือเรื่องการทุจริตเงินทอนวัด ที่เราประชุมกันแล้วเรียกว่า “ยุทธการปราบโกงวัด” อันนี้เราเห็นจากการกระทำความผิดการทุจริตที่เกิดขึ้น เริ่มจากที่จังหวัดเพชรบุรี บก.ปปป.ร่วมกับ สตง.ไปตรวจแต่จับไม่ได้ ถ้าเราเริ่มจับไม่ได้แล้วลืมเลย แต่ บก.ปปป.เราไม่ลืม เรากลับไปดู อีกไม่นานต่อมาก็มีการทุจริตที่จังหวัดสงขลา มีการจับกุมได้ จึงกลับมาคุยกันว่ามันเกิดขึ้นมาเป็นสิบปีแล้ว เราควรจะต้องทำอะไรกันเพื่อให้การกระทำเหล่านี้มันค่อยๆ น้อยลงไป หรือค่อยๆ หมดไป หรือให้ข้าราชการที่ผิดจะทำแบบนี้ทำไม่ได้อีกแล้ว” พล.ต.ต.กมล กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้คดีเงินทอนวัด มีการดำเนินการไปแล้ว 3 ล็อต มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 340 ล้านบาท และเป็นการตรวจสอบทุจริตงบใน 3 งบประมาณ คือ งบบูรณะปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัด งบอุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และเงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม โดยวัดสระเกศราชวรมหาวิหารที่ถูกดำเนินคดีในล็อตที่ 3 นี้ ถือเป็นการทุจริตงบสูงที่สุด กว่า 150 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเบื้องต้นตั้งแต่ล็อต 1 เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2560 จนสามารถทำสำนวนคดีทุจริตเงินทอนวัดได้ 12 คดี มีผู้ต้องหาที่มีหลักฐานพยานชี้ชัดว่าเกี่ยวข้องการเข้าร่วมทุจริตในครั้งแรกทั้งหมด10 ราย มูลค่าความเสียหาย กว่า 61 ล้านบาท ต่อมาทางบก.ปปป. ได้ตรวจสอบงบประมาณฯตั้งแต่ปี 2555-2560 (ล็อต2) จนพบว่ามีวัดที่เข้าข่ายการกระทำความผิดทั่วประเทศไทยอีกถึง 476 วัด โดยทางปปป.ได้ตรวจสอบแล้วพบการกระทำผิด 23 คดีรวมความเสียหายประมาณ 140 ล้านบาท ผู้ต้องหาจำนวน 19 ราย

ส่วนในล็อต 3 รวม 10 วัด มูลค่า 140 ล้านบาท มีผู้ต้องหาสรุปรวมแล้วทั้งสิ้น 19 ราย ประกอบด้วยพระสงฆ์ 7 รูป ข้าราชการและอดีตข้าราชการ พศ. 10 คน แบ่งเป็นผู้ต้องหาเก่า 8 คน เพิ่มผู้ต้องหาใหม่ 2 คน เป็นระดับอดีตข้าราชการ รอง ผอ.พศ. 1 ราย และระดับหัวหน้าหน่วย 1 ราย รวมกับประชาชนที่มีส่วนรู้เห็น การทุจริตอีก 2 ราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน