พ่อแม่ รับศพ หนุ่มลั่นไกฆ่า น้องอุ้ม ชี้ลูกขโมยปืนมา ไม่คิดจะไม่ก่อเหตุสลด (คลิป)

จากเหตุการณ์สุดสลด เมื่อหนุ่มวัย 26 ได้ตามไปง้อขอคืนดีแฟนสาว วัย 21 ซึ่งกำลังจะเรียนจบ แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมคืนดี จนก่อเหตุสลด ยิงแฟนสาว แล้วยิงกรอกปากตัวเอง จากนั้น ได้เสียชีวิตลงในช่วงดึก (4 มิ.ย.) ที่ผ่านมา

โดยพบว่า ผู้ก่อเหตุสลดครั้งนี้ คือ นายภัคพงษ์ จิตตารมย์ อายุ 26 ปี หนุ่มโรงงานที่ขับรถยนต์มาดักรอ นางสาวณัจฉรีญา ทาประจิตร อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะโลจิสติกส์และซัพพลายเซน สาขาธุรกิจพานิชยนาวี มหาวิทยาลัยสวนสุนันทา สาขานครปฐม แฟนสาว อยู่ริมทาง จนกระทั่ง น.ส.ณัจฉรียา เดินออกมาจากซอยเพื่อไปรอขึ้นรถไปมหาวิทยาลัย แต่ถูกเรียกให้หยุดเพื่อขอเจรจาและง้อขอคืนดีแต่ไม่สำเร็จ จึงชักอาวุธปืน ขนาด .38 ยิงใส่แฟนสาวสิ้นใจไปต่อหน้าต่อตา แล้วยิงตัวเองจนสาหัส พลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาล ก่อนจะไปสิ้นใจที่โรงพยาบาลนครปฐม เมื่อคืนวันที่ 4 มิ.ย.61 เวลา 21.42 น. ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 5 มิ.ย.61 ที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม นายปราโมช จิตตารมย์ อายุ 50 ปี และนางกมลวรรณ จิตตารมย์ อายุ 48 ปี พ่อแม่ของนายภัคพงษ์ จิตตารมย์ อายุ 26 ปี หนุ่มที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่ นางสาวณัจฉรีญา ทาประจิตร อายุ 21 ปี ได้เดินทางมาโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ทำการรับศพกลับไปดําเนินการตามประเพณี

นางกมลวรรณ แม่ผู้เสียชีวิต ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่าปกติแล้วลูกชายก็เป็นคนจิตใจดี ไม่คิดว่าจะมาลงมือก่อเหตุแบบนี้ อย่างไรก็ตามต้องขอโทษ กับครอบครัวอีกฝ่ายด้วยก็เข้าใจคนมีลูกเหมือนกันลูกใครใครก็รัก ตนไม่รู้จะพูดอะไรบุตรชายมีปัญหาก็ไม่เคยมาพูดคุยให้ฟัง

พ่อแม่ รับศพ หนุ่มลั่นไกฆ่า น้องอุ้ม

พ่อแม่รับศพ หนุ่ม ยิงแฟนสาว ก่อนยิงตัวตายตาม

ด้านนายปราโมช พ่อผู้เสียชีิวิต เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเอกสารประจำตัวของบุตรชายหายไปทั้งหมด โดยไม่ทราบว่าอยู่ที่ใคร จึงทำให้ยากต่อการติดต่อเดินทางมารับศพ ทำให้ล่าช้า สำหรับอาวุธปืนที่ก่อเหตุนั้นเป็นอาวุธปืนขนาด .38 เป็นของตนเอง โดยไม่ทราบว่าหายไปตอนไหน และไม่รู้ว่าบุตรชายนำติดตัวมา เพราะสอบถามกับภรรยาก็เข้าใจตรงกันว่าบุตรชายขับรถออกมาทำงาน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเดินทางมาที่ จ.นครปฐม เพราะเป็นช่วงบ่ายๆ จะเข้ากะทำงาน และเลิกงานเวลา ตี 1 ตี 2 ของทุกวัน แต่รอแล้วรอเล่าบุตรชายก็ยังไม่เดินทางกลับมา จนมาทราบจากข่าวอีกครั้งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์ไปแจ้งว่าบุตรชายเสียชีวิต

“ผมขอโทษจริงๆ กับครอบครัวอีกฝ่าย ที่ผ่านมาได้รับรู้เพียงว่าคบหากัน แต่ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรมากนัก เนื่องจากลูกไม่เคยมาปรึกษา” บิดากล่าว หลังจากนั้น ครอบครัวได้นำศพออกจากโรงพยาบาลเพื่อมุ่งหน้าไปยังจังหวัดระยอง ไปที่วัดสำนักทองหมู่ 1 ต. กระเฉด อ.เมืองระยองเพื่อนำศพไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป

ด้านนายอนุสรณ์ โต้สาลี อายุ 40 ปี เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นรุ่นน้องของตน เท่าที่ได้เคยคุยกัน ผู้ตายจะเป็นคนร่าเริง จิตใจดี และทำงานออกเหตุกับหน่วยกู้ภัยด้วยกัน ทั้งพ่อของผู้ตายก็ยังเข้ามาช่วยเหลือในงานกู้ภัยด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในเรื่องส่วนตัว ผู้ตายไม่เคยมาบอกเล่าอะไร แต่เพื่อนๆจะรู้ว่าคบหาอยู่กับแฟนสาว โดยนิสัยรักจริง ตั้งใจทำงาน บวชเรียนมาแล้ว แต่ไม่มีใครคิดว่าจะมาถึงจุดนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน