เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 28 พ.ย. ร.ต.อ.ทศพร ดุดง รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ดอนเมือง รับแจ้งเหตุวัยรุ่นถูกแทงเสียชีวิต บริเวณแฟลตการเคหะทุ่งสองห้อง ถนนกำแพงเพชร 6 แขวงและเขตดอนเมือง กทม. จึงรุดตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผกก.สน.ดอนเมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ภูมิพล และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุบริเวณลานเอนกประสงค์ หน้าแฟลตที่ 5 มีวัยรุ่นหลายคนจับกลุ่มยืนมุงดูเหตุการณ์ดังกล่าว ที่พื้นปูน พบศพ นายภาคิน เดโชอภิฉัตร อายุ 19 ปี สภาพศพ สวมเสื้อยืดกีฬาสีแดง-เหลือง กางเกงขาสั้นสีแดง นอนหงายจมกองเลือด ตรวจสอบพบมีบาดแผลถูกแทง ด้วยอาวุธมีดเข้าบริเวณใต้ราวนมซ้าย ใกล้กันบนโต๊ะหินอ่อน พบแกลลอนน้ำดื่ม ขนาด 5 ลิตรบรรจุน้ำสีแดง กล่องยาแก้ไอ และน้ำอัดลม 1 ขวดวางอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่งสถาบันนิติเวช ร.พ.ภูมิพลฯ
สอบสวน น.ส.หญิง (นามสมมติ) อายุ 16 ปี แฟนสาว ให้การว่า ผู้ตายพักอยู่ย่านถนนช่างอากาศอุทิศ ก่อนเกิดเหตุ ตนกับผู้ตายและเพื่อน ประมาณ 5-6 คน นั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อน ระหว่างนั้น นายไกด์ อายุ 18 ปี คนก่อเหตุ ได้ขี่รถจยย. ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ทราบทะเบียน เข้ามาหาที่กลุ่มพวกตน จากนั้นเกิดการทะเลาะวิวาทกันกับผู้ตาย กระทั่งนายไกด์ ชักอาวุธมีดออกมาแทงผู้ตาย จนล้มลงจากนั้นจึงขี่รถจยย.หลบหนีไป ซึ่งก่อนหน้านี้นายไกด์ ยืมเงิน 1,500 บาท จากผู้ตายไปจ่ายหนี้พนันฟุตบอล ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากเรื่องที่ผู้ตายได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กถึงตนเอง แต่นายไกด์เข้าใจผิดว่าผู้ตายโพสต์เรื่องทวงเงินที่นายไกด์ยืมไป นายไกด์จึงมาหา เพื่อพูดคุยกระทั่งมีเรื่องทะเลาะกันเกิดขึ้น
ด้านนางษิรชา เดโชอภิฉัตร อายุ 42 ปี มารดาผู้ตายร่ำไห้แทบขาดใจ กล่าวว่า ปัจจุบันลูกชายไม่ได้ทำงานหรือเรียน ก่อนหน้านี้เคยเป็นอดีตนักฟุตบอล เยาวชนทีมสโมสรโอสถสภา สำหรับชุดกีฬาที่ลูกชายใส่นั้นปกติจะเก็บรักษาไว้อย่างดี เพราะว่าลูกชายชอบชุดกีฬานี้มาก แต่ไม่ทราบว่าวันนี้ลูกชายทำไมถึงหยิบเอามาใส่ เหมือนเป็นลางสังหรณ์ ลางบอกเหตุในครั้งนี้
พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนพยาน ให้การว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายไกด์ อายุ 18 ปี ก่อนเกิดเหตุขี่รถจยย. มาจอดบริเวณโต๊ะหินอ่อนที่เกิดเหตุ ก่อนมีปากเสียงกัน และแทงผู้ตาย แล้วหลบหนีไป ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากเรื่องที่ผู้ก่อเหตุติดหนี้ผู้เสียชีวิต ขณะนี้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนทำการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
