พบอีก 30 วัดเอี่ยวทุจริตเงินทอนวัดล็อต 4 ตำรวจปปป.ยังพบความผิดปกติของงบบูรณะปฏิสังขรณ์ของวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร จากเดิมที่พบทุจริตงบประมาณโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรม ปปป.ยัง เตรียมอายัดพระ 4 รูป ที่ถูกคุมขังจากคดีฟอกเงินของกองปราบปราม

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงการทุจริตเงินงบประมาณอุดหนุนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหรือเงินทอนวัดล็อต 4 ว่า ผู้กำกับการทั้ง 6 กองกำกับการ ของ ปปป. พร้อมชุดปฏิบัติการ อยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบการอนุมัติงบประมาณจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มายังวัดทั่วประเทศ ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบในล็อต 1, 2 และ3

โดยเน้นตรวจสอบวัดที่ได้รับงบประมาณเกิน 1 ล้านบาท หากตรวจสอบข้อเท็จจริงที่มีความชัดเจนมากขึ้น จะประสานงานไปยัง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ. ให้มาแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งทางปปป. กับ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีนัดหมายการประชุมวางแนวทางการดำเนินคดีการทุจริตเงินทอนวัดเป็นประจำทุกเดือน

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่การประชุมคณะพนักงานสอบสวน ปปป. ที่รับผิดชอบดูแลสำนวนทุจริตเงินทอนวัด พบความเชื่อมโยงของขบวนการทุจริตที่ขยายเกี่ยวข้องไปยังหลายวัด ทำให้เพิ่มเป้าหมายในการตรวจสอบกว่า 100 วัด และพบว่ามีการทุจริตงบประมาณในรูปแบบเงินทอนวัดแล้ว เพิ่มเติมประมาณ 30 วัด ส่วนใหญ่เป็นวัดในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลาง เป็นผู้ต้องหากลุ่มเดิมที่กระทำความผิด

ส่วนในพื้นที่ภาคใต้พบการกระทำความผิดไม่มากนัก แต่พบเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติรายใหม่ ที่ร่วมทุจริตเงินทอนวัดในล็อต 4 ด้วย รวมถึงวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ที่ตำรวจกองปราบปรามอยู่ระหว่างการติดตามตัวอดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสที่อยู่ระหว่างหลบหนี ตำรวจ ปปป. พบความผิดปกติงบประมาณเพิ่มเติม ในส่วนของงบประมาณบูรณะปฏิสังขรณ์ จากเดิมที่พบว่าทุจริตงบประมาณโรงเรียนสอนพระปริยัติธรรม จนนำมาสู่การออกหมายจับในคดีฟอกเงิน

ข่าวแจ้งด้วยว่า รูปแบบการทุจริตเงินทอนวัดในล็อต 4 คล้ายกับการทุจริตในล็อต 1, 2 และ3 คือมีเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และพระชั้นผู้ใหญ่เป็นศูนย์กลางในการทุจริต กระจายงบประมาณ ขอนำเงินผ่านบัญชีแต่ละวัด จากนั้นเรียกเงินทอนคืน แต่การทุจริตในล็อตที่ 4 มีรูปแบบพิเศษขึ้น คือปปป. พบความผิดส่วนตัวของพระบางรูปชัดเจน ที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

ส่วนพระครูกิตติพัชรคุณ เจ้าอาวาสวัดลาดแค เจ้าคณะอำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาเงินทอนวัดล็อต 1 นั้น ตรวจสอบเพิ่มเติมว่าพบการกระทำความผิดในรูปแบบเดียวกัน กับการตรวจพบการทุจริตเงินทอนวัดล็อต 4 ของ ปปป. คือการติดต่อวัดภาคเหนือตอนล่าง เพื่อขอนำเงินผ่านบัญชีมากกว่า 10 วัด จากนั้นนำเงินทั้งหมดโอนกลับมาบัญชีตนเอง

ขณะที่การตีสำนวนการทุจริตเงินทอนวัดล็อต 3 ชุดแรก ของวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัดสามพระยา และวัดสัมพันธวงศรามวรวิหาร ที่ป.ป.ช. ตีสำนวนกลับมาให้ ปปป.ดำเนินคดีต่อนั้น จะเข้าสู่กระบวนการสอบสวนเพิ่มเติม การออกหมายเรียกแจ้งข้อกล่าวหา โดย ปปป.เตรียมขออายัดตัวพระ 4 รูป ที่ถูกคุมขังจากคดีฟอกเงินของกองปราบปราม

ประกอบด้วย 1.อดีตพระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศ 2.อดีตพระราชอุปเสนาภรณ์ หรือพระสังคม สังฆะพัฒน์ 3.พระวิจิตธรรมภรณ์ หรือเจ้าคุณเทอด ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ และ 4.อดีตพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ส่วนอดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ ที่อยู่ระหว่างหลบหนีในคดีฟอกเงิน ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีเงินทอนวัดล็อต 3 ชุดแรกเช่นกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน