โจรปล้นแบงก์ เปิดปากสารภาพ หลังถูกบุกจับกุมคาคอนโดกลางกรุง พร้อมปืนที่ใช้ก่อเหตุ อ้างหาเงินใช้หนีเงินกู้นอกระบบ หลังลงทุนทำธุรกิจแล้วเจ๊ง ตร.หิ้วตัวทำแผน ก่อนส่งดำเนินคดี
โจรปล้นแบงก์ จากกรณีคนร้ายสวมหน้ากากอนามัย ใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ ภายในธนาคารไทยพาณิชย์ สาขากาญจนาภิเษก (บางแวก) หมู่ 9 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กทม. ได้เงินสดไป 343,100 บาท ก่อนขับรถกระบะโตโยต้า พรีรันเนอร์ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
คืบหน้าล่าสุดวันที่ 8 มิ.ย. ที่ สน.ศาลาแดง พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิรัตน์ นาสมวาส รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.ธีรชัย ชำนาญหมอ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.กุลเชษฐ์ บางพราน ผกก.สส.บก.น.7 พ.ต.อ.กฤตินาท ตุลยลักษณ์ ผกก.สน.ศาลาแดง ร่วมกันสอบปากคำ นายกฤษฎา หรืออ๊อด แก้วกูล อายุ 33 ปี ชาวจ.พะเยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี เลขที่ จ.245/2561 ลงวันที่ 8 มิ.ย.61 ข้อหา “ชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้พาหนะกระทำหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” พร้อมของกลาง เงินสด 17,340 บาท อาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก รถกระบะโตโยต้า พรีรันเนอร์ สีดำ ทะเบียน บน 8330 พะเยา โดยสามารถจับกุมได้ที่ห้องพักซอยเพชรเกษม 62/3 บางแคคอนโดทาวน์ ห้อง 1919 ชั้น 9 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม.
ผู้ต้องหาปล้นแบงก์ชี้จุดที่หลบหนี
พล.ต.ต.อนุรักษ์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่หาข่าว และตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนพบเส้นทางหลบหนีของคนร้าย ก่อนจับกุมตัวได้พร้อมของกลาง จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ได้นำเงินทั้งหมดไปใช้หนี้นอกระบบ ก่อนก่อเหตุได้ขับรถมาดูลาดเลาแล้ว ในช่วงเวลา 09.00 น. จากนั้นกไม่นานก็ได้ใช้อาวุธปืนเข้าไปก่อเหตุ โดยใช้เวลาเพียง 45 วินาที หลังก่อเหตุจึงขับหลบหนีไปทางถนนกาญจนาภิเษก มุ่งหน้าไปทางเดอะมอลล์บางแค ก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยราชมนตรี ระหว่างทางได้ทิ้งเสื้อผ้าที่คลองบางจาก บริเวณซอยเพชรเกษม 68 แล้วหลบหนีไปซ่อนตัวที่คอนโดดังกล่าว สำหรับอาวุธนั้นสั่งมาจากทางอินเตอร์เน็ต และไม่เคยใช้มาก่อน จากการตรวจสอบประวัติก็ไม่พบเคยต้องโทษหรือมีหมายจับแต่อย่างใด
นาทีตำรวจบุกจับคนร้ายพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ
นายกฤษฎา ให้การว่า เมื่อก่อนตนมีอาชีพเป็นพ่อค้าขายโทรศัพท์ ที่ห้างสรรพสินค้าย่านบางแค ต่อมาเริ่มประสบปัญหาทางการเงิน จึงเลิกกิจการไปเกือบ 1 ปี และได้เห็นว่ามีการปล่อยเงินกู้นอกระบบผ่างทางเฟซบุ๊ก จึงติดต่อไปเพื่อเอาไปลงทุนแต่ก็ล้มเหลว และก็ไม่ได้ชำระหนี้ตามกำหนด จนถูกแก๊งทวงหนี้บุกมาข่มขู่ จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว หลังจากได้เงินมาก็เอาไปใช้หนี้จนหมด กระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
ต่อมาเวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายกฤษฎา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ธนาคารไทยพานิชย์ สาขาถนนกาญจนาภิเษก (บางแวก) โดยจุดที่ 1 เป็นจุดที่ผู้ต้องหาได้ขับรถกระบะ จากเส้นกาญจนาภิเษกและกลับรถ มาจอดบริเวณริมถนนซึ่งเลยจากหน้าธนาคารประมาณ 50 เมตร จุดที่ 2 บริเวณหน้าธนาคารผู้ต้องหาได้เดินเข้าไปยังธนาคาร เพื่อดูต้นทางโดยอ้างกับทางพนักงานธนาคารว่าลืมบัตรประชาชนและเดินออกไปยังรถกระบะ จุดที่ 3 เข้ามาภายในธนาคารอีกครั้งได้ทำทีเข้าติดต่อทำธุระกรรม จุดที่ 4 บริเวณจุดบริการโต๊ะที่ 2 ได้ใช้อาวุธปืนจี้พนักงานพร้อมเดินออ้มไปด้านหลังก่อนหยิบเงินสดใตลิ้นชักไปจำนวนหนึ่ง จุดที่ 5 บริเวณจุดให้บริการโต๊ะแรก ภายหลังได้เงินจากจุดให้บริการโต๊ะที่สองแล้วก็มายังโต๊ะแรกพร้อมหยิบเงินสด 343,100 บาท หลบหนีไป หลังเสร็จสิ้นการทำแผนจึงควบคุมตัวผู้องหาส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านข่าว โจรสวมแมสบุกเดี่ยวปล้นแบงก์ไทยพาณิชย์ ทำเนียนกดบัตรคิวก่อนกวาด 3 แสน
อ่านข่าว เปิดภาพ โจรบุกเดี่ยว ปล้นแบงก์ ไทยพาณิชย์ แฉคนร้าย ขับ กระบะวีโก้
อ่านข่าว ตำรวจรวบตัว โจรบุกเดี่ยวปล้นธนาคาร คาห้องพัก ผบช.น.สั่งสอบเครียด
