นักเรียนชาวเขาเผ่าลาหู่-ปกาเกอะญอ จากแม่ฮ่องสอนเข้ากราบพระบรมศพ

เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่หน้าศาลหลักเมือง นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ น.ส.วรมาศ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานพาณิชย์กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ พร้อมด้วย ม.ล.บวรนวเทพ เทวกุล ผอ.ฝ่ายพัฒนาธุรกิจสายการบินไทยแอร์เอเชีย นำครูและนักเรียนชาวเขาเผ่าลาหู่ ปกาเกอะญอ ละว้า และม้ง จำนวน 750 คน จากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน นักเรียนด้อยโอกาส ตามโครงการพาน้องกราบพ่อ มาเข้าคิวเข้ากราบสักการะพระบรมศพและแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

นายอัยยวัฒน์ กล่าวว่า โครงการพาน้องกราบพ่อ เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท คิงเพาวเวอร์ กับสายการบินแอร์เอเชีย นำนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ทั้งหมด ซึ่งตั้งอยู่ในถิ่นธุรกันดารจำนวน 3,999 คนทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนขาดโอกาส เข้ามากราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 เป็นโรงเรียนแรก จากนั้นในวันที่ 29 พ.ย.นี้ จะเป็นโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 12 จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 150 คนเดินทางโดยเครื่องบินชาร์เตอร์ไฟลท์ของสายการบินแอร์เอเชียทั้งไปและกลับฟรี และจะทยอยนำนักเรียนมาไปจนถึงวันที่ 28 ธ.ค.นี้ หลังจากนั้นจะมีโครงการอีกหรือไม่นั้น ต้องดูอีกครั้งหนึ่ง

ม.ล.บวรนวเทพ เทวกุล ผอ.ฝ่ายพัฒนาธุรกิจสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า สายการไทยบินแอร์เอเชียสนับสนุนโครงการนี้เต็มที่ โดยเปิดเที่ยวบินพิเศษให้กับนักเรียนได้ใช้เดินทางฟรี ครั้งละ 180 คนต่อหนึ่งไฟล์

ด้านนายสิริวัฒน์ ไพรสง่า อายุ 19 ปี ชาวเขาเผ่าปกาเกอะญอ นักเรียนชั้นม.6 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 อ.แม่ลานน้อย จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาเป็นตัวแทนนักเรียนเข้ากราบพระบรมศพในหลวง ก่อนหน้านี้ไม่เคยมากรุงเทพฯ แต่เคยผ่านๆไปบ้าง ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสเข้ากราบพระบรมศพจริงๆ

ขณะที่ น.ส.จุไรพร ผู้มีมิตร อายุ 18 ปี ชาวเขาเผ่าปกาเกอะญอ นักเรียนชั้นม.6 กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มากราบพระบรมศพในหลวงร.9 แม้ว่าจะไม่ได้เห็นพระองค์จริงก็ตาม ตื่นตันใจมากรู้สึกสัมผัสได้ด้วยใจ เพราะพระองค์ท่านเป็นผู้ให้ทุกอย่าง ช่วยเหลือชาวเขาทั้งอาชีพและการศึกษา

ส่วนน.ส.วรรณวนัส คงคาสัมฤทธิ์ อายุ 18 ปี เผ่าละว้า นักเรียนชั้นม.6 โรงเรียนเดียวกัน กล่าวว่า พระองค์ทรงเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง ชาวไทยภูเขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะพระองค์ท่าน เมื่อพระองค์เสด็จสู่สรวงสรรค์แล้ว พวกเราจะยึดถือแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวทางพระราชดำริมาใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต

ขณะที่บรรยากาศด้านหน้าพระบรมมหาราชวัง และรอบสนามหลวง ยังมีประชาชนจากทั่วประเทศ ทยอยเดินทางมาต่อแถวเพื่อรอเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

ขณะที่การดูแลรักษาความเรียบร้อย และปลอดภัยของประชาชนที่เดินทางเข้ามาถวายสักการะพระบรมศพนั้น ยังคงเข้มงวด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดคัดกรองตามจุดต่างๆ บริเวณทางเข้าสนามหลวง 8 จุด พร้อมทั้งตรวจค้นร่างกาย สัมภาระ และตรวจบัตรประชาชน ผู้ที่เข้ามาภายในสนามหลวงทุกคนอย่างละเอียด

ต่อมาเวลา 12.30 น. ที่เต็นท์กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย โดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต รองแม่ทัพภาค 1 กล่าวถึงความพร้อมในการจัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่ง เดย์ ในวันที่ 1-2 ธ.ค.นี้ว่า การเตรียมความพร้อมสำหรับการทำความสะอาดท้องสนามหลวง และพื้นที่โดยรอบพระบรมมหาราชวัง ซึ่งกำหนดให้ดำเนินกิจกกรมในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ โดยจะเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ต้องการร่วมทำกิจกรรมสามารถเดินทางมาร่วมได้

ซึ่งในขณะนี้ทางกอร.รส.พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ซักซ้อมแผนอุบัติเหตุ เส้นทางออกฉุกเฉิน เส้นทางหน่วยแพทย์ในกรณีเร่งด่วน สำหรับวันที่ 2 ธ.ค. จะทำการตรวจสอบระบบเตือนภัย ระบบไฟฟ้า ระบบกล้องวงจรปิด ระบบน้ำประปา ระบบการติดต่อสื่อสาร ในส่วนของความมั่นคง จะยังมีเจ้าหน้าที่ประจำจุดคัดกรองทั้ง 8 จุดเช่นเดิม แม้ว่าจะมีประกาศจากสำนักพระราชวังในเรื่องของการงดเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ทั้งนี้ ก็เพื่อดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ท้องสนามหลวงและพระบรมมหาราชวัง

พล.ต.พงศ์สวัสดิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการจราจรในวันที่ 1-2 ยังคงเปิดให้สัญจรตามปกติ แต่จะยังคงปิดถนนทั้ง 8 เส้นทางด้านในต่อไป ในส่วนของระบบขนส่งมวลชนได้หารือกับขสมก.และกรมเจ้าท่า โดยรถเมล์โดยสารสาธารณะจะงดให้บริการ เฉพาะเส้นทางด้านหน้าประตูเทวาภิรมย์เพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น สำหรับการสัญจรทางน้ำกรมเจ้าท่าได้ปิดท่าเรือยอดพิมาน ซึ่งประชาชนสามารถใช้ท่าราชินีและท่าสะพานพุทธได้ตามปกติ

ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนาธรรมได้ฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนว่าจะงดแจกหนังสือในวันดังกล่าว และงดการเข้าชมนิทรรศการในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม จะยังไม่มีการย้ายสถานที่จัดแสดงนิทรรศการแต่อย่างใด ยังคงใช้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเช่นเดิมไปกระทั่งถึงเดือนม.ค.2560