รองอธิบดี ดีเอสไอ นำตัวเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่โพสต์เฟซบุ๊กปูดข่าวจับ 3 สมเด็จพระราชาคณะวัดดัง ในคดีเงินทอนวัด มามอบให้กองปราบฯ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำและรวบพยานหลักฐานไว้หมดแล้ว

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 12 มิ.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้อำนวยการกองคดีภาษีอากร ดีเอสไอ นำตัวนายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีภาษีอากร เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา กรณีเป็นบุคคลที่ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวโพสต์ข้อความว่าว่าจะมีการจับกุมเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ วัดพิชยญาติการามวรวิหาร วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร และวัดราชสิทธารามราชวรวิหาร ในคดีเงินทอนวัด

คุมตัวเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ส่งกองปราบฯดำเนินคดี ปมโพสต์จับ 3สมเด็จวัดดัง

พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวว่า วันนี้นายพิสิฐชัยได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีการแจ้งข้อหาใดบ้าง จะต้องรอฝ่ายกฎหมายของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้เก็บรวบรวมข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนายพิสิฐชัยมีการโพสต์เฟซบุ๊กได้มากพอสมควรแล้ว ทั้งนี้ เมื่อนายพิสิฐชัยเข้ามาพบพนักงานสอบสวนก็จะต้องสอบปากคำและนำข้อมูลทั้งหมดมาพิจารณาว่าจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาใดได้บ้าง

“สำหรับ 4 วัดที่มีการโพสต์ถึงนั้น อาทิ วัดปากน้ำภาษีเจริญ วัดพิชยญาติการามวรวิหาร วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร และวัดราชสิทธารามราชวรวิหาร ซึ่งที่นายพิสิฐชัยโพสต์พาดพิงถึงนั้น ยังไม่มีวัดใดเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับทางกองปราบฯแต่อย่างใด” พล.ต.ต.ไมตรีกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน