เมื่อวันที่ 15 ก.ย. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลจากพายุ “ราอี” ที่อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่น ซึ่งเคลื่อนตัวผ่านบริเวณแประเทศไทยตอนบน ทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้างและฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลากและดินสไลด์ใน 8 จังหวัด รวม 19 อำเภอ 49 ตำบล แยกเป็น จ.บุรีรัมย์ เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อ.ปะคำ ระดับน้ำสูงประมาณ 10-20 เซนติเมตร บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 40 หลังคาเรือน และน้ำไหลกัดเซาะถนนสายบ้านประชาสามัคคี-หนองต้อ กม. 2 บ้านกองพระทราย ต.หูทำนบ ซึ่งเป็นถนนช่วงสร้างผ่านท่อระบายน้ำเป็นหลุมกว้าง 3 เมตร ยาว 2 เมตร และลึก 1 เมตร
จ.เพชรบูรณ์ น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่หมู่ที่ 8 ต.วังบาล อ.หล่มเก่า ระดับน้ำสูงประมาณ 30 ซม. บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 400 หลังคาเรือน และต.ท่าพล ต.น้ำร้อน และต.ตะเบาะ อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เลย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อ.ด่านซ้าย บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 153 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 1,500 ไร่ บ่อปลา จำนวน 40 บ่อ สถานที่ราชการ จำนวน 3 แห่ง ถนน 9 สาย อ.ภูกระดึง น้ำเอ่อล้นสะพานในพื้นที่หมู่ที่ 7 ต.ศรีฐาน ไม่สามารถสัญจรได้ ต.ภูกระดึง บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 44 หลังคาเรือน
นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า จ.ตาก เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.สามเงา อ.เมืองตาก และอ.แม่สอด ประชาชนได้รับผลกระทบ 112 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 850 ไร่ จ.เชียงใหม่ น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อ.จอมทอง และอ.เมืองเชียงใหม่ ปัจจุบันระดับน้ำลดลง จ.ลำพูน น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อ.แม่ทา อ.ป่าซาง สะพานได้รับความเสียหาย 1 แห่ง ถนน 3 แห่ง ฝาย 1 แห่ง อ.บ้านโฮ่ง ประชาชนได้รับผลกระทบ 105 หลังคาเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
จ.ลำปาง เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่อ.ห้างฉัตร และอ.เมืองลำปาง จ.พิษณุโลก น้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่อ.เนินมะปราง ประชาชนได้รับผลกระทบ 300 หลังคาเรือน โรงเรียนเสียหาย 1 แห่ง วัด 1 แห่ง อ.ชาติตระการ อ.วัดโบสถ์ อ.นครไทย และเกิดดินสไลด์ถนนนครไทย-นครชุม บริเวณ กม.26 จำนวน 3 จุด ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,151 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 6,122 ไร่ บ่อปลา จำนวน 50 บ่อ ปัจจุบันสถานการณ์ในภาพรวมทั้ง 8 จังหวัด ระดับน้ำลดลงแล้ว มีเพียง จ.ตากที่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตร ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัย ร่วมกับหน่วยทหารและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว
อธิบดีปภ. กล่าวอีกว่า จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าพายุดีเปรสชั่นราอีได้เคลื่อนตัวจากบริเวณภาคเหนือตอนล่าง เข้าปกคลุมด้านตะวันตกของภาคเหนือแล้ว คาดว่าจะเคลื่อนออกไปปกคลุมประเทศเมียนมา และจะอ่อนกำลังลงก่อนสลายตัวไป แต่ยังคงทำให้มีฝนตกหนักในบางพื้นที่ ปภ.จึงได้ประสาน 6 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก และสุโขทัย รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดเตรียมสรรพกำลัง เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยง อาทิ คอสะพาน เส้นทางน้ำไหลผ่าน ที่ลาดเชิงเขา เพื่อให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุ แก้ไขปัญหา และช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย ตลอดจนบูรณาการแผนการระบายน้ำในเชิงลุ่มน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากอุทกภัย
