เมื่อเวลา 07.05 น. วันที่ 30 พ.ย. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมด้วยคุณพลอยไพลิน เจนเซน ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งดำเนินมาเป็นวัน 48

s__68608036

จากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย หน้าพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงกราบหน้าพระบรมโกศพระบรมศพ หลังจากนั้นทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร จากนั้นถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดบวรนิเวศวรวิหาร และวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมมาตั้งแต่ค่ำวันที่ 29 พ.ย. โดยมี พลตรีม.จ.จุลเจิม ยุคล พล.ท.ม.จ.เฉลิมศึก ยุคล ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล และม.ร.ว.สุริยวุฒิ สุขสวัสดิ์ ร่วมพระราชพิธี

vek_9586

ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.ท.ม.จ.เฉลิมศึก ยุคล ทรงเป็นประธานถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรม จำนวน 8 รูป จากวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร และวัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร

vek_9627

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันที่ 32 ที่พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ได้ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น. (ยกเว้นช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท) โดยมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศสวมชุดไว้ทุกข์สุภาพเรียบร้อย เดินทางมาต่อคิวเพื่อเข้าสักการะพระบรมศพตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีอย่างเป็นระเบียบ โดยในเวลา 04.45 น. เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี และเปลี่ยนทางเข้าเป็นทางประตูมณีนพรัตน์ ถนนหน้าพระลาน ในเวลา 08.30 น. เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดความงามของพระศรีรัตนศาสดารามเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี

นางนาถนดา พุ่มสมบัติ นางสมจิตร วิสุทธิรัตน์ และนางมานะ เฉลิมพงษ์ ชาวจ.จันทบุรี

นางนาถนดา พุ่มสมบัติ นางสมจิตร วิสุทธิรัตน์ และนางมานะ เฉลิมพงษ์ ชาวจ.จันทบุรี

ทั้งนี้ พสกนิกรที่มากราบสักการะพระบรมศพทุกคนยังคงอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ และเมื่อเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพแล้ว สำนักพระราชวังแจกภาพพระบรมโกศพระบรมศพ พิมพ์ 4 สี ขนาด 5 คูณ 7 นิ้ว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่พสกนิกรทุกคนเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย

วันเดียวกันนี้ สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 29 พ.ย. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ไห้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 22.30 น. จากกำหนดเดิมที่ต้องปิดในเวลา 21.00 น. เนื่องจากยังมีประชาชนมาเข้าคิวรอเข้ากราบพระบรมศพ ที่มณฑลพิธีสนามหลวงเป็นจำนวนมาก โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 49,446 คน รวม 32 วัน มี 1,092,992 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 4,089,765 บาท รวม 32 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 83,549,541.50 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร 50 วัน ในวันพฤหัสบดีที่ 1 ธ.ค. เวลา 17.00 น. โดยพระสงฆ์ 30 รูปสวดพระพุทธมนต์ มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดธรรมคาถา แต่งกายเครื่องแบบเต็มยศ ไว้ทุกข์ สายสะพายจุลจอมเกล้า หรือสายสะพายมงกุฎไทย

ส่วนวันศุกร์ที่ 2 ธ.ค. เวลา 10.30 น. พระสงฆ์ 30 รูปสวดถวายพรพระ รับพระราชทานฉัน มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดธรรมคาถา ประเคนผ้าไตรพระ 89 รูป เท่าพระชนมพรรษา แต่งกายเครื่องแบบครึ่งยศ ไว้ทุกข์

นอกจากนี้ สำนักพระราชวังแจ้งปิดการจำหน่ายบัตรเข้าชมพระบรมมหาราชวังสำหรับนักท่องเที่ยว และงดการเข้าถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เนื่องในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญา สมวาร 50 วัน ในวันที่ 1-2 ธ.ค. เป็นเวลา 2 วัน

สำหรับวันที่ 5 ธ.ค. และวันที่ 6 ธ.ค. จะมีพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สำนักพระราชวังจะปิดการจำหน่ายบัตรเข้าชมพระบรมมหาราชวังสำหรับนักท่องเที่ยว ทั้ง 2 วัน แต่ยังคงเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ได้ตามปกติ

นางนาถนดา พุ่มสมบัติ อายุ 62 ปี อาชีพทำสวนผลไม้ พร้อมด้วยนางสมจิตร วิสุทธิรัตน์ อายุ 62 ปี อาชีพค้าขาย-ทำสวนผลไม้ และนางมานะ เฉลิมพงษ์ อายุ 64 ปี อาชีพทำสวนผลไม้ ชาวบ้าน ม.1 ต.พริ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี เดินทางออกจากหมู่บ้านเมื่อเวลา 20.00 น. ถึงท้องสนามหลวงเวลา 01.00 น. และเข้ากราบสักการะพระบรมศพในเวลา 05.30 น. โดยคุณป้าทั้งสามร่วมกันกล่าวด้วยน้ำตาแห่งความอาลัย ว่า พูดถึงในหลวง ร.9 แล้วน้ำตาไหลทุกครั้ง รักพระองค์ท่านมาก ชาวจันทบุรีซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทรงพระราชทานแก้มลิงคลองภักดีรำไพ ซึ่งหลังจากมีคลองดังกล่าวแล้วทำให้น้ำไม่ท่วมบ้านอีกเลย และทรงพระราชทานโครงการสร้างเขื่อนคีรีธาน ช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งให้เกษตรกรได้มีน้ำทำมาหากิน และยังทรงพระราชาทนฝนเทียมให้ทุกปี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้

ชาวจันทบุรี กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ในหลวง ร.9 เสด็จสวรรคต ชาว จ.จันทบุรี ร่วมใจกันทำกิจกรรมถวายความอาลัยอย่างต่อเนื่องเพื่อระลึกถึงพระองค์ โดยวันนี้เราทุกคนตั้งใจเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง และจะมีอีกในวันที่ 22 ธ.ค. โดยในวันถวายพระเพลิงพระบรมศพก็ตั้งใจจะเดินทางมาอีกเป็นครั้งสุดท้าย

ต่อมาเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักพระราชวังเปลี่ยนภาพที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่พสกนิกรที่เข้ากราบสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นที่ระลึก ซึ่งเดิมเป็นภาพพระโกศพระบรมศพ พิมพ์ 4 สี ขนาด 5 คูณ 7 นิ้ว ขณะที่ภาพใหม่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พิมพ์ 4 สี ขนาด 5 คูณ 7 ซึ่งเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ที่ประดิษฐานอยู่บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สด 3สี ได้แก่ ดอกไม้สีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำพระบรมราชวงศ์จักรี อีกทั้งเป็นสีประจำวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ดอกไม้สีขาว ซึ่งเป็นสีแห่งความบริสุทธิ์ผุดผ่อง เป็นสีแห่งพระเมตตาขององค์ภูมิพลที่ปกเกล้าชาวไทย และดอกไม้สีเขียว ซึ่งเป็นสีแห่งความอุดมสมบูรณ์ เพราะทุกพื้นที่ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินจะเกิดความอุดมสมบูรณ์ มีฝน มีป่า พืชพันธุ์ธัญญาหาร ราษฎรมีเก็บ มีกินมีใช้ มีออม ดำรงชีพอย่างพอเพียง ประดับถวายอาลัยในพระราชพิธีพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง นอกจากนี้ มีดอกไม้ประดิษฐ์เป็นรูปกระต่าย สัตว์ประจำปีนักษัตรประจำปีพระราชสมภพประดับอยู่ด้านหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ด้วย

ขณะที่ด้านหลังเป็นหมายกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร (50 วัน) เนื้อหาระบุว่า วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม 2559 เวลา 17.00 น.พระสงฆ์ 30 รูปสวดพระพุทธมนต์ จบ มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดธรรมคาถา แต่งกายเครื่องแบบเต็มยศ ไว้ทุกข์ สายสะพายพระจุลจอมเกล้า หรือสายสะพายมงกุฎไทย วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2559 เวลา 10.30 น. พระสงฆ์ 30 รูปสวดถวายพรพระ รับพระราชทานฉัน มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดธรรมคาถา ประเคนผ้าไตรพระ 89 รูปเท่าพระชนมพรรษา แต่งกายเครื่องแบบครึ่งยศ ไว้ทุกข์

ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร (100 วัน) วันศุกร์ที่ 20 มกราคม 2560 เวลา 17.00 น.พระสงฆ์ 30 รูปสวดพระพุทธมนต์ จบ มีพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดพระธรรมคาถา แต่งกายเครื่องแบบเต็มยศ ไว้ทุกข์ วันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2560 เวลา 10.30 น. พระสงฆ์ 30 รูปสวดถวายพรพระ รับพระราชทานฉัน มีพระพิธีธรรมเทศนากัณฑ์ 1 พระ 4 รูปสวดธรรมคาถา ประเคนผ้าไตรพระ 89 รูปเท่าพระชนมพรรษา แต่งกายเครื่องแบบครึ่งยศ ไว้ทุกข์

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน