จากกรณี นายชัยพร เชาวนะกมล อายุ 31 ปี ก่อเหตุบุกยิงนายสัมพันธ์ ทะนามศรี อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นพ่อตาเสียชีวิต ก่อนยิงน.ส.ธัญญมาศ ทะนามศรี อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นภรรยาเสียชีวิตเช่นกัน จากนั้นก็ใช้ปืนกระบอกเดียวกัน ยิงตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดภายในโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกลูกหลงอีก 1 ราย ทราบชื่อคือนางดวงลักษณ์ สิริพิชญ์ตระกูล อายุ 52 ปี

เบื้องต้นทราบว่า นายสัมพันธ์ ได้พาลูกสาวมาพบแพทย์หลังเพื่อคลอดลูก ก่อนที่นายชัยพร จะติดตามมา แล้วก่อเหตุดังกล่าว เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 มิ.ย.

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ธัญญมาศเพิ่งคลอดลูกชายได้ 5 เดือนเศษ ก่อนถูกนายชัยพร สามีบุกยิงเสียชีวิตพร้อมบิดาในโรงพยาบาล ซึ่งปรากฏว่ามีคนเข้าไปแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเฟซบุ๊คของน.ส.ธัญญมาศ

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ น.ส.ธัญญามาศ ได้โพสต์ครั้งสุดท้ายก่อนโดนสามีสังหารว่า “โพสต์ไว้เตือนตัวเองว่ารอดตายแล้วจากไตวาย หัวใจวาย น้ำท่วมปอด ศุกร์ที่ 25 พฤษภาคม แอดมิดโรงบาลด่วนเนื่องจากเหนื่อยหอบหายใจไม่ได้ ซาวพบถุงน้ำขนาดใหญ่ มันคือฉี่ที่ค้างอยู่ในกระเพาะ 3 ลิตร กล้ามเนื้อกระเพาะฉี่ล้าจนฉี่เองไม่ได้ ต้องใส่สายสวน และปัจจุบันก็ยังคงคาถุงฉี่ไว้อยู่ ส่งผลให้ไตวาย เจาะเลือดทุกวัน เพื่อเช็คค่าไต แขนสองข้างมีแต่รอยเข็ม เส้นเลือดแตกเขียวช้ำทั้งสองแขน เป็นภาวะซีดนอนให้เลือด 2 ถุงก็ดีขึ้น เหนื่อยหอบ หายใจด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องใส่เครื่องออกซิเจนช่วยหายใจอยู่สองวัน ค่าออกซิเจนก็ดีขึ้น หายใจเองได้

น้ำท่วมปอด ทำให้หมอสงสัยว่าน่าจะมีโรคประจำตัว ตรวจหัวใจพบว่าเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวช้า โรคนี้เป็นสภาวะหลังคลอดที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก ต้องโดนจำกัดการกินน้ำ 800 มิลลิลิตรต่อวัน ออกจากโรงบาลก็ยังคงต้องจำกัดน้ำอยู่ กินน้ำเยอะจะทำให้หัวใจทำงานหนักและหอบ งดกินเค็ม กินรสจัดตลอดชีวิต ต้องเปลี่ยนตัวเองว่าห้ามปรุงรส

ตามหลักคือห้ามตั้งครรภ์ ถ้ารู้ก่อนคงไม่ท้อง โชคดีที่ได้ลูกชายวาเลนของแม่มาก่อน แล้วลูกแม่แข็งแรงดีทุกอย่าง แม่ได้หนูมา แลกด้วยชีวิตแม่เลยนะวาเลน รักหนูนะ ทางออกตอนนี้คือคุมกำเนิด กิ๊กไม่สามารถกินยาคุมได้เพราะเสี่ยงผ่าตัดทำหมันก็เสี่ยง วิธีที่ดีที่สุดคือพี่แอ๊ปทำหมัน เราจะมีลูกกันแค่วาเลนคนเดียวเนอะ

ผ่านมา 1 สัปดาห์ ร้องไห้มาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง เป็นสัปดาห์ที่ทรมานมากที่สุดในชีวิตแล้ว จากนี้ไปเข้าใจสัจธรรม รู้ค่าของชีวิตมากขึ้น ไม่ได้บอกให้ใครรับรู้เลยเพราะเครียดมาก พยายามทำชีวิตให้ปกติ มีแม่กับพี่แอ๊ปคอยผลัดเวรมาเฝ้าแล้วก็เลี้ยงลูก ทุกคนเหนื่อยล้ากันมามาก หมดแรง เหนื่อยใจ กินนอนไม่ปกติกันมาอาทิตย์นึง ขอบคุณนะคะที่อดทนสู้ไปด้วยกัน

ตอนนี้ วันนี้ออกจากโรงบาลเรียบร้อย แต่ยังคงมีนัดรักษาตามอาการเป็นระยะ จากนี้ไป จะรักษาสุขภาพเพื่อคนที่เรารักและเพื่อตัวเอง ความตายมันอยู่ใกล้กว่าที่เราคาดไว้เยอะเลย สุขภาพคือสิ่งสำคัญ หันมาดูแลตัวเองกันนะ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน