เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 1 ธ.ค. พ.ต.ต.ปริญญา นาควิสุทธิ์ สารวัตรเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรตรอน อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ รับแจ้งเหตุรถบรรทุกน้ำมันดีเซลพ่วง ขนาด 40,000 ลิตร พลิกคว่ำบนถนนเขาขาด และเกิดไฟลุกโหมไหม้อย่างรุนแรง บนเส้นทางหลวงหมายเลข 11 ระหว่างพิษณุโลก-อุตรดิตถ์ ขาขึ้น หลักกิโลเมตรที่ 291-292 หมู่ 10 บ้านเนินสวรรค์ ต.น้ำอ่าง จึงรายงานผู้บังคับบัญชารับทราบ และรุดไปตรวจสอบ พร้อม พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ และรถดับเพลิงจาก อบต.น้ำอ่าง เทศบาลบ้านแก่ง เทศบาลทองแสนขันและเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ จำนวน 10 คัน
ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกน้ำมันดีเซล ขนาด 22 ล้อ ชนิดพ่วง ยี่ห้อวอลโว่ สีเทาคาดเหลือง หมายเลขทะเบียน 77-6506 กรุงเทพมหานคร ของบริษัท กู๊ดทีม เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด พลิกคว่ำตกอยู่กลางถนนและมีไฟลุกโหมอย่างรุนแรง
เจ้าหน้าที่ได้ปิดเส้นทางการจราจรทั้งขาขึ้นขาล่อง พิษณุโลก-เด่นชัย ตั้งแต่แยกหนองกวางและแยกน้ำอ่าง ระยะทาง 5 กิโลเมตร เนื่องจากหวั่นว่าไฟที่กำลังลุกโหมไหม้รถบรรทุกน้ำมันจะระเบิดขึ้นมาและหวั่นเป็นอันตรายต่อรถที่ใช้บนเส้นทางดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ นำรถโฟมจำนวน 2 คัน พร้อมน้ำยาโฟมเสริมอีก จำนวน 15 ถัง พุ่งฉีดเข้ายังกองเพลิง ร่วมกับรถน้ำ 8 คัน ช่วยฉีดหล่อเลี้ยงนานเกือบ 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบลง
เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมนายฉัตรชัย วรศักดิ์กุลชัย แพทย์เวรโรงพยาบาลตรอน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพชาย ซึ่งถูกไฟไหม้เกรียมจนจำไม่ได้ว่าเป็นใคร นอนเสียชีวิตในลักษณะใบหน้าคว่ำติดกับพื้นถนนและอยู่ด้านท้ายของถังน้ำมันโดยถูกถังน้ำมันทับแขนและขาซ้ายเอาไว้เอาไว้ ทำให้แขนและขาขาดหายไป เจ้าหน้าที่พบบัตรประจำตัวพนักงาน บริษัท กู๊ดทีม เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด อยู่กับร่างศพผู้ตายชื่อนายกิตติชัย อัดชุมพรมราช จึงสันนิษฐานว่าเป็นโชว์เฟอร์คนขับรถน้ำมันดังกล่าว เนื่องจากไม่พบศพผู้อื่นเพิ่มเติม คาดว่าผู้ตายคงมาเพียงลำพังคนเดียว
จากการสอบสวน นายปัญญา อารีวงศ์ อายุ 52 ปี พนักงานขับรถขนสินค้าบริษัท นิ่มซี่เส็ง จำกัด ซึ่งขับรถบรรทุกตามหลังมาให้การว่า โชว์เฟอร์ขับรถบรรทุกน้ำมันขับรถลงเขามาด้วยความเร็ว เมื่อถึงเส้นทางโค้งช่วงลงเขา ทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ รถจึงวิ่งชนแท่งปูนแบริเออร์ด้านซ้ายมือของคนขับซึ่งอยู่ติดกับเขา จากนั้นรถวิ่งเซถลาเข้ากลางถนน แต่รถเกิดพลิกคว่ำทำให้มีน้ำมันไหลออกมา จากนั้นเกิดประกายไฟลุกขึ้น พร้อมกับไฟลุกไหม้เผารถทันที เหตุที่เกิดเป็นไปด้วยความรวดเร็วมาก จึงจอดรถข้างทางพร้อมแสดงสัญญาณไฟให้คนที่ขับรถตามหลังมา รู้ว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบนถนนสายนี้ พร้อมให้หยุดรถและหันกลับไปใช้เส้นทางอื่นแทน หากไม่แจ้งคงเกิดอุบัติเหตุซ้ำแน่นอน
พ.ต.ต.ปริญญา กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุสันนิษฐานว่า ผู้ตายขัรถบรรทุกน้ำมันมาเพียงคนเดียว และมาด้วยความเร็วสูงช่วงลงเขาจึงไม่สามารถควบคุมรถให้อยู่ได้จึงโดดหนี เพื่อเอาชีวิตรอด ระหว่างนี้รถเกิดพลิกคว่ำทับร่างส่วนแขนและขาซ้ายเอาไว้ทำให้หนีไปไหนไม่ได้ กระทั่งเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นมาจึงเผาร่างผู้ตายคากองเพลิงทันที ตอนนี้ได้ประสานไปบริษัท กู๊ดทีม จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อแจ้งให้ทราบว่ามีรถของบริษัทมาเกิดอุบัติเหตุที่อุตรดิตถ์และมีผู้เสียชีวิตคากองเพลิงด้วย