แม่น้องเมย์ร่ำไห้วันรู้ข่าวลูกสาวถูกฆ่าหั่นศพ เผยไอ้วุธเคยมาหาที่บ้านมักมีปากเสียงกับลูกสาว ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุร้ายกับลูก เชื่อสาเหตุมาจากความหึงหวงกลัวน้องเมย์จะกลับไปคืนดีกลับแฟนเก่า จี้ลงโทษประหารจึงจะสาสมกับการที่ต้องสูญเสียลูกสาว

แม่ของน้องเมย์

จากกรณีพบศพหญิงสาวผมแดงถูกฆ่าหั่นศพ แยกชิ้นส่วนรวม 14 ชิ้น ยัดใส่กระสอบปุ๋ยโยนทิ้งอยู่ในป่าซอยสามวา เขตคลองสามวา กทม. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าผู้เสียชีวิตคือน.ส.ลักษณา หรือเมย์ กำลังเก่ง อายุ 24 ปี ชาวจ.ร้อยเอ็ด อดีตพนักงานบัญชี บริษัทพริ้นต์วิทมี จำกัด ซอยเลียบคลองสอง 29 ถนนเลียบคลองสอง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ก่อนสามารถควบคุมตัวนายธนกฤต หรือวุธ ประกอบ อดีตแฟนหนุ่มของผู้ตายมาสอบปากคำ จนรับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าหั่นศพภรรยาก่อนนำไปทิ้งหมกป่า สาเหตุเพราะความหึงหวง ก่อนตร.จะคุมตัวนายวุธไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางชาวบ้านที่รุมดูหน้าฆาตกรโหด โดยต่างสาปแช่ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว ชาวบ้านรอประชาทัณฑ์ ตะโกนลั่น ประหารเลย คุม ไอ้วุธ ฆ่าหั่นศพ ขึ้นรถตู้วุ่น!

บ้านของน.ส.ที่จ.ร้อยเอ็ด

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 8 บ้านดงหัวเรือ ตำบลนาใหญ่ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านของน.ส.ลักษณา หรือเมย์ กำลังเก่ง อายุ 24 ปี โดยพบนางพัชรา กำลังเก่ง อายุ 48 ปี แม่ของน.ส.ลักษณา เหยื่อสาวถูกฆ่าหั่นศพ และนายสุพรรณ ชาลี ลุงผู้ตาย พร้อมญาติ ที่กำลังนั่งปรึกษากันว่า จะนำศพจากกรุงเทพฯมาฌาปนกิจที่วัดบ้านดงหัวเรือ ในวันที่ 25 มิถุนายน 2561 เวลา 13.00 น. อ่านข่าว ชาวบ้านหลายร้อย รอดูหน้า ฆาตรกรฆ่าหั่นศพ น้องเมย์ จัดกำลังคุ้มกันแน่น!

นางพัชรา แม่ของน้องเมย์ กล่าวว่า รู้จักนายวุธมานานแล้ว ลักษณะเป็นคนโลกส่วนตัวสูง เป็นคนนิ่งๆ ภายนอกไม่ค่อยพูด เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ ไม่คิดว่าเรื่องร้ายๆ จะเกิดขึ้นกับลูกสาว ตามปกติลูกสาวกับนายวุธช่วงที่มาอยู่ที่บ้านจะทะเลาะและมีปากเสียงกันตลอด ในช่วงที่มาอยู่ที่บ้านไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายถึงขนาด รุนแรง จึงฆ่ากันตายแบบนี้

ซึ่งชนวนเหตุเกิดจากการที่ลูกสาวและนายวุธมาอยู่ที่บ้าน มักเจอแฟนเก่ามาเยี่ยมลูกชายวัย 5 ขวบ เป็นประจำ จนกลายเป็นเรื่องหึงหวง และมีเรื่องทะเลาะกันเรื่อยมา ซึ่งต้นเหตุนายวุธเกรงว่าเมียจะกลับคืนดีกับสามีเก่า ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่ก็มาเยี่ยมลูกเท่านั้น โดยไม่เคยถามถึงแม่เลย และหลังจากมาอยู่บ้านไม่นาน นายวุธก็พาน้องเมย์ไปกรุงเทพ

จากนั้นก็ติดต่อกับลูกสาวอยู่บ่อยๆ ล่าสุดก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวโทรมาบอกว่าจะลาออกจากงาน เพราะเบื่อสามี ที่หาเรื่องทะเลาะกันเป็นประจำ หลังจากลาออกจากงานออกมาอยู่บ้านประมาณ 1 เดือนเศษ โดยที่นายวุธไม่ได้มาด้วย แต่ก็โทรมาง้อประจำ จนตอนหลังผู้ตายไม่ยอมรับโทรศัพท์ ก็โทรมาหาน้องสาวผู้ตาย ขอคุยด้วยเพื่อวิงวอนให้กลับไป แต่ผู้ตายยืนยันว่า จะไม่กลับไป และขอแยกทางโดยเด็ดขาด แล้วบอกด้วยว่าจะลงไปเก็บของออกจากบ้านพักที่อยู่ด้วยกัน และไปเซ็นโอนรถจักรยานยนต์ให้กับนายวุธแล้วจะไปหางานใหม่ทำและหาที่อยู่ใหม่

นางพัชรา กล่าวว่า หลังจากลูกสาวไปกรุงเทพปรากฏว่าเงียบหายไป พยายามติดต่อทางโทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ หายไปเป็นอาทิตย์ โดยไม่ทราบว่าถูกนายวุธฆ่าตายอย่างทารุณแล้ว หลังจากนั้นก็ติดต่อไปอีกโดยไม่ทราบว่าลูกสาวถูกฆ่าตาย ปรากฏว่านายวุธรับโทรศัพท์แต่บอกว่า ไม่รู้ว่าน้องเมย์หายไปไหน แถมยังเฉไฉบอกว่าถ้าแม่ติดต่อได้ ช่วยแจ้งให้ทราบด้วย ซึ่งตนก็ได้แต่สงสัย ไม่คิดว่านายวุธจะโหดร้ายฆ่าลูกสาวตนเองตายอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ ตนรู้สึกเสียใจ โกรธมาก คิดไม่ถึง ว่าจะทำกับลูกตนโหดร้ายเช่นนี้ อยากให้ขบวนการทางกฎหมายลงโทษให้สูงสุด หรือถึงขั้นประหารชีวิตจึงจะสาสมกับการที่ต้องสูญเสียลูกสาวคนนี้ไป

“ตอนนี้แม่เสียใจมาก ลูกสาวน่าจะอยู่ด้วยกันนานๆ เสียเร็วเกินไป ถูกฆ่าอย่างอำมหิตเกินไป อยากให้ประหารชีวิตอย่างเดียว สำหรับการฌาปนกิจศพนั้น หลังจากพ่อนำศพจากกรุงเทพฯมาถึงร้อยเอ็ดคืนนี้ จะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านนาใหญ่ และทำพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 25 มิ.ย. เวลา 13.00 น.” แม่น้องเมย์ กล่าว

ด้านนายสุพรรณ พาลี ลุงผู้ตาย กล่าวว่า ช่วงที่นายธนกฤตพาเมียมาอยู่ที่บ้าน ก็ไม่มีท่าทีโหดร้าย เป็นคนสุภาพเรียบร้อย พูดจา อัธยาศัยดี เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ค่อยพูด ชอบเก็บตัวเงียบ เป็นคนไม่ดื่มเหล้า ไม่ดูดบุหรี่ ไม่ดื่มกาแฟ ซึ่งก็อาจจะเกี่ยวกับเป็นคนเก็บกด เพราะช่วงที่มาอยู่ที่ร้อยเอ็ด มีเรื่องระหองระแหงกันเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่สามีเก่าของหลานสาว มาเยี่ยมลูกทีไร ก็มักจะมีเรื่องทะเลาะกันทุกครั้ง แต่ไม่คิดว่าไปอยู่กรุงเทพ ก็ยังมีเรื่องทะเลาะกัน จนหลานสาวทนไม่ไหว หนีกลับมาบ้าน แล้วจะแยกทางกันจนเป็นต้นเหตุ ให้ถูกฆ่าอย่างโหดร้ายทารุณเช่นนี้ การที่นายธนกฤตทำรุนแรงเช่นนี้ตนต้องการให้ลงโทษ ด้วยการประหารชีวิตอย่างเดียวจึงจะสาสม

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำนักงานยุติธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด โดยนางเยาวดี พันธ์หินกอง ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดร้อยเอ็ด ปฏิบัติหน้าที่ยุติธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ ผู้เสียหายรายนี้ ตามพ.ร.บ.ให้ความช่วยเหลือตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2559) คือ ผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำผิดทางอาญาของบุคคลอื่น โดยที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขอค่าตอบแทนจากรัฐได้

กรณีของผู้ตายนางสาวลักษณา กำลังเก่ง ทายาทมีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือ ดังต่อไปนี้ค่าตอบแทนให้จ่ายเป็นเงินจำนวนตั้งแต่ 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ค่าจัดการงานศพ ให้จ่ายเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดูให้จ่ายเป็นเงินไม่เกิน 40,000 บาท ค่าเสียหายอื่นตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร แต่ไม่เกิน 40,000 บาท ซึ่งรวมแล้วรายนี้น่าจะได้รับเป็นจำนวนทั้งสิ้น 110,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน