‘บิ๊กแป๊ะ’ ส่ง 2 รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ถ้ำหลวง จ.เชียงราย ดูแลและอำนวยความสะดวกการปฏิบัติงานทีมช่วยเหลือ 13 ชีวิต พร้อมส่ง ฮ.พยาบาล และตร.พลร่ม สนับสนุนภารกิจแล้ว

จากกรณีมีเด็กนักฟุตบอล และผู้ฝึกสอนหายเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมานายดำรงค์ หาญภักดีนิยม หัวหน้าวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน สำนักงานพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 รับแจ้งว่ามีผู้ที่พากันเดินทางเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลายคนแล้วไม่กลับออกมาอีกเลย โดยพบรถจักรยานรองเท้าบริเวณทางเข้าถ้ำ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.

บิ๊กแป๊ะ / ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตร.ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์พยาบาล 3 ลำ ตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร และตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่ พร้อมเครื่องสูบน้ำจากกรุงเทพฯไปช่วยเหลือ ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล และพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ไปดูแลและอำนวยความสะดวกเรื่องการจราจร

ฮ.บินสำรวจหาปล่องเหนือถ้ำหลวงช่วย 13 ชีวิต

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า ซึ่งขณะนี้เข้าสู่วันที่ 4 ของการค้นหาทั้ง 13 คน ตนได้รับรายงานข่าวอย่างต่อเนื่อง แต่อยากปล่อยให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบหน้างานได้ทำงานกัน เชื่อว่าทุกคนเร่งดำเนินการค้นหาอย่างเต็มที่ จึงอยากขอให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่าเข้าไปในพื้นที่ เพราะจะเป็นภาระได้

บิ๊กแป๊ะ ส่งฮ.และอุปกรณ์ช่วยทีมค้นหา 13 ชีวิตถ้ำหลวง

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีมีผู้ปลอมและแฮ็กเฟซบุ๊กของพ่อแม่เยาวชนเพื่อเรี่ยไรเงินบริจาค ถือว่าเป็นความผิดฐานฉ้อโกง มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 1,000-14,000 บาท และผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และขอตำหนิผู้ที่ฉวยโอกาส เช่นเดียวกับร่างทรงที่ออกมาทำพิธีต่างๆในพื้นที่นั้น เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ตอนนี้จึงอยากให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือทั้ง 13 คนมากกว่า

“ฝากถึงประชาชนที่บริโภคข่าวสารว่า ต้องใช้วิจารณญานว่ามีเหตุ มีผล ตรวจสอบได้หรือไม่ ส่วนคนทรงเจ้าต่างๆตนก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ ขณะนี้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือเด็กก่อน เรื่องทรงเจ้า เรื่องแอบ จะจับเมื่อไหร่ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเสร็จภารกิจที่กทม.ก็จะรีบบินตามไปร่วมด้วย” ผบ.ตร. กล่าว