มารู้จัก ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แม่ทัพกู้13ชีวิตติดถ้ำหลวง! เผย เคยระงับโครงการทุจริตท้องถิ่นจนโดนเด้งมาแล้ว!
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย / จากกรณีมีเด็กนักฟุตบอล และผู้ฝึกสอนหายเข้าไปเที่ยวใน ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานขุนน้ำนางนอน อ.เชียงราย จ.เชียงราย เมื่อช่วงเย็นวันที่23 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ต่อมานายดำรงค์ หาญภักดีนิยม หัวหน้าวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน สำนักงานพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 รับแจ้งว่ามีผู้ที่พากันเดินทางเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลายคนแล้วไม่กลับออกมาอีกเลย โดยพรถจักรยานรองเท้าบริเวณทางเข้าถ้ำ
จากกรณีนี้ นอกจากเจ้าหน้าที่กู้ภัย ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน หน่วยซีล นักดำน้ำชาวต่างชาติ จิตอาสา และเจ้าหน้าที่หน่วยอื่นที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย ที่ได้เสียสละเวลา และแรงกายเข้ามาช่วยกัน ทำให้ภาระกิจช่วย13ชีวิตติดถ้ำ ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีแล้ว
เราได้เห็นถึงการทุ่มเททำงานอย่างหนัก ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์การช่วยเหลือทีมฟุตบอลหมูป่า13ชีวิต ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ที่ชื่อว่า “ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร” ที่ตอนนี้เราอาจจะเรียกได้ว่า เป็น “แม่ทัพ” หรือ “ผู้นำ” ในการปฏิบัติภาระกิจในครั้ง
เชื่อได้ว่า ณ.วินาทีนี้ ผู้ว่าฯเชียงรายคนนี้ นอกจากได้ใจชาวเน็ตแล้ว ก็ยังได้ใจคนไทยทั้งประเทศไปเต็มๆ
นี่ไม่ใช่เหตุการณ์แรก ที่ผู้ว่าฯเชียงราย คนนี้ ได้รีบเสียงชื่นชมจากโลกออนไลน์และประชาชนทั่วไป หากย้อนกลับไป เมื่อเดือนมีนาคม 2561 ผู้ว่าราชการคนนี้ไม่ยอมซ็นอนุมัติให้เทศบาลนครเชียงรายก่อสร้างอนุสาวรีย์ช้างคู่บารมีพญามังราย ที่ริมแม่น้ำกก เนื่องจากพบว่า พื้นที่ก่อสร้างเป็นพื้นที่ที่รุกล้ำเข้าไปในแม่น้ำ และมีพิรุธอื่นๆ ที่ส่อแววว่าจะมีการทุจริต อย่างเช่น ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับผู้รับเหมา นอกจากโครงการนี้แล้ว กว่า20โครงการ ที่ผู้ว่าฯเชียงคนนี้ ไม่ยอมเซ็นต์อนุมัติ เนื่องจากผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย มองว่า งบประมาณก้อนนี้สามารถนำไปใช้พัฒนาด้านอื่นๆ ได้ดีกว่านี้
นอกจากกรณีนี้แล้ว ยังมีอีกรณีหนึ่งที่ผู้ว่าฯเชียงราย สั่งไม่อนุมัติโครงการ เนื่องจากว่าใช้วิธีพิเศษไม่เปิดประมูลแข่งขันจตามระเบียบราชการ ซึ่งกรณีนั้นคือกรณีการสร้าง “ตุง” ซึ่งจะสร้างเป็นสัญลักษณ์กลางเมืองเชียงราย โดยผู้ว่าฯมองว่า โครงการนี้มีการทำผิดขั้นตอน และให้กลับไปทบทวนใหม่
“แล้วอย่างนี้จะให้ผมอนุมัติได้อย่างไร ถ้าวันนั้นผมเข้ามาทำงานใหม่ๆ แล้วเกิดเซ็นต์อนุมัติไปคงถูกดำเนินการไปแล้ว แต่เพราะผมต้องการรักษากฎกติกาที่ถูกต้องเอาไว้และไม่อยากให้พี่น้องข้าราชการต้องมาเสี่ยงกับเรื่องนี้ด้วย” ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กล่าวไว้หลังจากที่ไม่อนุมัติการสร้างตุง ด้วยงบประมาณกว่า50ล้านบาท
และถ้าย้อนไป ช่วยระยะเวลาไม่ใกล้ไม่ไกล เมื่อประมาณเกือบ2เดือนที่ผ่านมา เมื่อช่วงปลายเดือนเมษา 2561 มีมติเห็นชอบรายชื่อโยกย้ายข้าราชการระดับสูง และผู้ว่าราชการจังหวัดกลางปี 12 ตำแหน่ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอมา หนึ่งในนั้น มีชื่อของ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ซึ่งถูกโยกไปนั่งเก้าอี้ผู้ว่าพะเยา แล้วให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา สลับมาเป็น ผู้ว่าฯเชียงราย
มีคนเผยเหตุผลของการโยกย้าย ผู้ว่าฯเชียงราย ในครั้งนี้ว่า มีปัญหาการทำงานร่วมกับผู้บริหารท้องถิ่น ถือเป็นการย้ายลดขั้น จากจังหวัดใหญ่ ไปจังหวัดที่เล็ก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการโยกย้ายอย่างเป็นทางการ จึงยังคงเป็นผู้ว่าเชียงรายอยู่จนถึงปัจจุบัน
ส่วนประวัติก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็น ผู้ว่าฯเชียงรายของ “ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร” ก็นับว่าไม่ธรรมดา เราจึงไม่แปลกใจในความสามรถของเขา ก่อนที่จะก้าวมาถึงจุดนี้ โดยณรงค์ศักดิ์ สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต (วิศวกรรมโยธา) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาโท Master of Science (Geodetic Science and Surveying) , The Ohio State University
ส่วนประวัติการทำงานที่ผ่านมา เคยเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เขตตรวจราชการที่7 จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง , ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมสำรวจ (วิศวกรสำรวจทรงคุณวุฒิ) กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย , ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีทำแผนที่กรมที่ดิน , ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลแผนที่ รูปแปลงที่ดินแห่งชาติ กรมที่ดิน , เลขานุการกรม กรมที่ดิน , กรรมการ ในคณะกรรมการบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ของกระทรวงมหาดไทย ฯลฯ
- อ่าน : ประวัติการทำงานของ ผู้ว่าฯเชียงราย เต็มๆได้ที่นี่
- อ่าน : มหาดไทยแต่งตั้ง-โยกย้ายข้าราชการระดับสูง รองปลัด-ผู้ว่าฯ 12 ตำแหน่ง
- อ่าน : ‘บิ๊กป๊อก’สั่งผวจ.เชียงราย รายงานปมเจอทุจริต 20 กว่าโครงการใน 3 วัน
- อ่าน : รองผบ.ตร.หารือผู้ว่าฯเชียงราย สนับสนุนกำลังพล-ฮ.ลำเลียง จ่อติดตั้งวงจรปิดในถ้ำ
นี่คือเพียงตัวอย่างประวัติการทำงานโดยย่อ ก่อนที่จะขึ้นมาเป็น “พ่อเมืองเชียงราย” และขณะที่ยังดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ ก่อนที่ในวันนี้ คนไทยทั้งประเทศ จะได้รู้จักเขา ในฐานะ “แม่ทัพ” ผู้นำการช่วย13ชีวิต ให้ออกมาจากถ้ำหลวงโดยปลอดภัย ซึ่งถือว่าเป็นงานที่ยากทุกขั้นตอน จึงต้องอาศัยทั้งความเด็ดขาด ตรงฉิน ละเอียด และเอาใจใส่ทุกฝ่าย ในการบัญชาการและทำงาน ดังที่เราเห็นจากในภาพข่าวทางสื่อสารมวลชน และโลกออนไลน์
“หน่วยซีลของผล ผมเป็นผู้อำนวยการในพื้นที่ก็จริง แต่ทุกชีวิตเราถือว่ามีคุณค่าสำคัญเหมือนกันหมด เราสั่งให้เขาไปช่วยชีวิตคนอื่น แต่เราไม่ได้สั่งให้เขาเอาชีวิตไปทิ้ง”
“ใครที่บอกว่าไม่เสียสละพอที่จะทำงาน ใครจะกลับบ้านไปนอนกับลูกกับเมีย เชิญเซ็นชื่อแล้วออกไปเลย ผมไม่รายงานใครทั้งสิ้น ใครจะทำงาน วันนี้ขอให้พร้อมทุกนาที ให้คิดว่าเค้าเป็นลูกเรา”
นี่คือคำกล่าวระหว่างช่วงการทำงาน ในตลอดระยะเวลา6วัน ของการค้นหาทีมหมูป่า13ชีวิต ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ของผู้ว่าฯเชียงราย คนนี้ ซึ่งสะท้อนมุมองการทุ่มเทการทำงานของเขาได้เป็นอย่างดี
ซึ่งทำงานท่ามกลางความหวัง ของคนไทยประเทศ
