ข้าราชการครูซี 8 ที่ตกเป็นข่าวร้อนทางโซเชี่ยลกล่าวหาว่าเป็นเมียน้อย ออกมาโต้ตอบแล้ว เปิดบ้านหลังใหญ่ แถลงข่าว พร้อมชี้แจงเหตุการณ์บุกรุกของฝ่ายตรงข้าม ย้ำข่าวในโซเชี่ยลบิดเบือนความจริง ทำให้ตนและครอบครัวได้รับความเสียหาย โดยจะฟ้องหมิ่นประมาทเรียกค่าเสียหาย ผู้ที่บุกรุก และลงข่าวโซเชี่ยล รวมไปถึงผู้อยู่เบื้องหลังทำให้ตนเองเสียหาย
จากกรณีโลกโซเชี่ยลและสื่อต่างๆ มีการเผยแพร่เกี่ยวกับกรณีครูเมียน้อยตบครูเมียหลวง จนเป็นเหตุให้นักเรียนรับไม่ได้กับพฤติกรรมของครูเมียน้อย และได้มีการแชร์ทั้งภาพและข้อความว่อนโซเชี่ยลขณะนี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 3 ธ.ค. นางบี (นามสมมติ) ครู คศ 3 ซี 8 โรงเรียนชื่อดัง ใน จ.อำนาจเจริญ เปิดบ้านนั่งแถลงข่าว พร้อมเผยความจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลา 02.30 น. ได้มีคนมาเคาะประตูห้องนอนของตน อย่างแรงหลายต่อหลายครั้ง และยังตะโกนออกมาว่า ปืนมา ปืนมา ตนกำลังนอนหลับ ตกใจตื่นขึ้นมา เปิดประตูห้องนอน และออกมาด้านนอกห้อง พบคนหนึ่งรูปร่างผอมสูงใช้ผ้าคลุมหน้าตา ไม่รู้ว่าเป็นผู้ใด และพูดเพียงคำเดียวว่า ปืนมา ปืนมา
จากนั้นตนพยายามจะเปิดหน้าตาดู แต่บุคคลดังกล่าวพยายามจะบุกรุกเข้ามาที่ห้องนอน ซึ่งตนนอนอยู่คนเดียว สามีของตนที่เป็นผู้รับเหมาไปทำงานที่หน้างานยังไม่กลับบ้าน ตนจึงได้ดึงแขนบุคคลนั้นไว้ และฉุดกระชากกันไปมาหลายต่อหลายครั้ง จนถึงขั้นตบตี ส่วนคู่กรณีก็ได้ดึงกระชากผม ดึงกันไปกันมาซักพัก บุคคลดังกล่าวจึงได้ร้องออกมาว่า ครูอ้อยข้อยมาตามหาสามี ตนจึงตกใจและบอกว่าทำไมจึงทำแบบนี้ และสามีของบุคคลดังกล่าวจะมาอยู่บ้านตนได้อย่างไร จากนั้นตนก็ดึงแขนไปส่งที่กลางลานบ้านตนแล้วให้เดินออกไป
ตนตกใจมากและจากนั้นตนก็เข้านอนเป็นปกติ เพราะคนที่มาบุกรุกบ้านตน คือ นางเอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นครูสอนวิชาภาษาอังกฤษอยู่ที่โรงเรียนเดียวกันกับตน และตนก็สงสัยว่าอยู่ๆ นางเอ จะมาตามหาสามีที่บ้านตนได้อย่างไร พอรุ่งเช้าตนทราบข่าวทางโซเชี่ยล ว่าตนเป็นเมียน้อยและมีคนโพสต์ข่าวให้ตนเสียๆ หายๆ แต่ตนก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเลย มาวันนี้ ตนทนไม่ได้ จึงต้องเปิดแถลงข่าว และขอความเป็นธรรม พร้อมรวบรวมเอกสารหลักฐานจะฟ้องหมิ่นประมาทครูผู้บุกรุกและคนที่ลงข่าวในโซเชี่ยลที่บิดเบือนจากความเป็นจริง และจะฟ้องคนที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้ตนและครอบครัวของตนต้องเสียหาย เป็นจำนวนเงิน 20 ล้านบาท และตนก็เชื่อว่านักเรียนที่ตนเองสอนคงไม่ได้เป็นคนนำเรื่องดังกล่าวไปเผยแพร่อย่างแน่นอน เวลาจะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ความจริงและจะกระชากหน้ากากคนที่ใส่ร้ายตนได้อย่างแน่นอน
เวลา 20.30 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะผู้บริหารและคณะกรรมต้นสังกัด ได้เรียกตัวครูเมียหลวง ครูเมียน้อย และพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ในกระแสดังกระฉ่อนโซเชี่ยล เข้าสอบสวนข้อเท็จจริงด่วน ที่อาคารสำนักงาน โรงเรียนต้นสังกัดของครูคู่กรณี เมื่อช่วงเวลา 18.20–19.30 น. ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด และทางผู้บริหารของทางโรงเรียนต้นสังกัดของครูสาวทั้งสองคน ไม่ยอมให้ผู้ที่ไม่ส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปเฝ้าสังเกตการณ์หรือรับฟังแต่อย่างใด
กรณีของการตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงนั้น เป็นการตั้งคณะกรรมสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องที่มีครูและนักเรียนเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พ.ย.59 ที่ผ่านมาอยู่ภายในโรงเรียนดังกล่าว ก่อนที่ครูเมียหลวงจะได้ออกไปแจ้งความนั้น ทำให้นักเรียนเกิดความไม่พอใจ และนำไปโพสต์และแชร์ทั้งในไลน์และเฟซบุ๊ก จนทำให้เกิดเป็นข่าวขึ้น ตามที่โลกโซเชี่ยลมีการระบุ ผู้บริหารและคณะกรรมได้มีการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่ครูเมียน้อยได้มีการโยนรองเท้าใส่ครูเมียหลวง ต่อหน้าต่อตาคณะครูและนักเรียน ซึ่งนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์รับไม่ได้กับพฤติกรรมของครูเมียน้อย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ครูเมียน้อย ได้ตบและจับหัวโขกกำแพงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 28 พ.ย.59 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียดนานนับชั่วโมง และคาดว่าผู้บริหารและคณะกรรมจะได้มีการเรียกพยานและนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้งในวันที่ 6 ธ.ค.59 ที่จะถึงนี้ และคาดว่าน่าจะรู้ผลภายใน 7 วันนี้
ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ได้เดินทางมาชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับผู้บริหารและคณะกรรมการต้นสังกัดของครูสาวทั้งสอง โดยพยานรายหนึ่ง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ทางคณะผู้บริหารและคณะกรรมการได้เชิญให้ตนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 30 พ.ย.59 ที่ผ่านมา เนื่องจากครูเมียหลวง เป็นเพื่อนเรียนรุ่นเดียวกันตน พอตนและเพื่อนๆ ทราบข่าวจึงได้พากันมาเยี่ยมและสอบถามถึงเรื่องราว จากนั้นครูเมียน้อยก็ได้เดินข้ามาพร้อมกับรองเท้าของครูเมียหลวงที่ตก ตอนที่ถูกครูเมียน้อยตบที่บ้านเกิดเหตุ พร้อมกับถ้อยคำต่างๆ นานา ตนและเพื่อนจึงได้พาครูเมียหลวง เข้าไปแจ้งความและพร้อมที่จะเป็นพยานให้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยังมีครูและนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็พร้อมที่จะเป็นพยานให้ครูเมียหลวงเช่นเดียวกัน
