ระดมเครื่องสูบน้ำอีกรอบ ลุยระบายน้ำในถ้ำหลวง ลุ้นฝนไม่ถล่มซ้ำ

จากกรณีมีเด็กนักฟุตบอล และผู้ฝึกสอนหายเข้าไปเที่ยวใน ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมานายดำรงค์ หาญภักดีนิยม หัวหน้าวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน สำนักงานพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 รับแจ้งว่ามีผู้ที่พากันเดินทางเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลายคนแล้วไม่กลับออกมาอีกเลย โดยพบรถจักรยานรองเท้าบริเวณทางเข้าถ้ำ

สำหรับความคืบหน้า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 มิ.ย. เจ้าหน้าที่นำขับรถเจาะขนาดใหญ่มาถึงถ้ำหลวงแล้ว เพื่อมาเตรียมเจาะถ้ำช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ต้องวางแผนเพื่อเตรียมเจาะในจุดแรกบริเวณจุดโถงพัทยาบีชก่อน ซึ่งคาดเป็นจุดที่ทั้ง 13 ชีวิตอยู่บริเวณนั้น

ด้านนาย ณัฐพงษ์ หอจตุรพิธพร หัวหน้าชุดขุดเจาะ ร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชน นำรถขุดเจาะขนาดใหญ่ 3 คัน มาเจาะรูเปิดทางน้ำโดยตรง เพื่อให้น้ำในถ้ำสามารถระบายได้เร็วขึ้น

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ได้ประสานงานกับจังหวัดเชียงราย นำรถขุดเจาะจำนวน 3 คัน โดยการขุดเจาะเข้าไปโดยตรง ในขนาด 6 นิ้ว สามารถระบายน้ำได้ถึง 1,000 ลูกบาศก์เมตร เหมือนการเจาะบาดาลแต่เป็นการเจาะแนวราบ โดยใช้ลม ซึ่งจะเจาะใกล้กับริมหน้าผาใกล้ถ้ำที่สุด ในความลึก 120 เมตร ไม่มีผลกระทบกับโครงสร้างถ้ำแน่นอน หากเจาะตรงนี้ได้ผล จะมีรถอีกชุดเจาะเข้าไปใกล้ถ้ำมากขึ้น และจะสามารถระบายน้ำได้เร็วขึ้นอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเจ้าหน้าที่เริ่มทำการติดตั้งเครื่องมือเพื่อเจาะหน้าผา จู่ๆ ก็มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรอให้ฝนเบาลง ก่อนเริ่มปฏิบัติภารกิจเจาะผาถ้ำหลวง เพื่อระบายน้ำออกจากถ้ำอีกทาง

ต่อมาพล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.กระทรวงทรัพยากรฯ เดินทางไปตรวจอุปกรณ์และเครื่องเจาะน้ำบาดาลบริเวณป้ายวนอุทยานฯ ซึ่งทางสมาคมน้ำบาดาลแห่งประเทศไทยได้นำเครื่องเจาะไปสนับสนุนการปฏิบัติการของศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จ.เชียงราย บริเวณหน้าถ้ำ หลังจากทางศูนย์ฯ และกรมทรัพยากรธรณีได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นจุดที่น้ำใต้ดินภายในถ้ำไหลผ่านพอดี โดยตั้งอยู่ห่างจากปากถ้ำแค่ประมาณ 15 เมตรเท่านั้น

พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า การติดตั้งเครื่องดังกล่าวเป็นการสนับสนุนจากภาคเอกชน อ.ปากช่อง จ.นครรสชสีมา ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้คำนวนแล้วคาดว่าเป็นจุดที่น้ำในถ้ำไหลผ่าน และเหมาะสมที่สุดแล้ว และจะเจาะในแนวเอียง ไม่เจาะในแนวตั้งเหมือนน้ำบาดาลทั่วไป เพื่อให้เข้าช่องหินด้านข้างเข้าไปถายในถ้ำ โดยเครื่องนี้มีศักยภาพเจาะได้ลึกกว่า 500 เมตร

พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า หากเจอน้ำตามที่ได้คำนวนไว้ก็จะเร่งระบายออกมาโดยเร็ว ซึ่งจะแบ่งเบาการสูบน้ำออกจากภายในถ้ำที่กำลังดำเนินการอยู่ ทั้งนี้การระบายน้ำจากการเจาะนี้สามารถทำได้ตลอด 24 ชม.

“หากเจาะเต็มความลึกที่เครื่องสามารถทำได้ จะใช้ระยะเวลาการเจาะนานประมาณ 5 ชม. โดยจะเจาะเพียงแค่จุดเดียวก่อน เพราะเป็นจุดที่คำนวนแล้วเชื่อเจอร่องน้ำนั่นเอง”

ส่วนการสูบน้ำออกจากบริเวณปากถ้ำ เมื่อเวลา 19.50 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยรบพิเศษช่วยกันลำเลียงเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ลงไปในถ้ำหลวงอีกครั้ง เพื่อติดตั้งเเละสูบระบายน้ำออกจากถ้ำในคืนนี้ ซึ่งหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดการสูบน้ำอาจทำให้เต็มศักยภาพ

ขอบคุณที่มาภาพ ราชสีห์ จิตอาสา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน