เจอสัญญาณดีในโพรงใหม่ ฝูงค้างคาวบินสวน ระดมเครื่องเจาะถึง ถ้ำหลวง

จากกรณีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) หรือ หน่วยซีล กู้ภัย และอื่นๆ ที่ร่วมภารกิจปฏิบัติการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชน และผู้ฝึกสอน 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ภายใน ถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย อย่างแข็งขัน ทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้เวลาผ่านไปแล้ว 7 วัน

เมื่อเช้าวันที่ 30 มิ.ย. บริเวณลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ข้างถนนใหญ่สายเชียงราย-แม่สาย ปากทางเข้าถ้ำหลวง พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร เปิดเผยว่า หลังจากทีมสำรวจของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เดินทางไปสำรวจโพรงใหม่บริเวณผาหมี เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. พบเป็นโพรงน้ำไหลลงไปในหุบเขา และธรรมชาติของถ้ำ คือทางระบายน้ำของภูเขาลงไปในถ้ำ การเข้าไปทำงานต้องนำเครื่องตรวจจับสัญญาณจีพีเอสสำรวจลงไป แล้วนำออกมาประมวลผล

จากการสำรวจเบื้องต้นลึกไปมากกว่า 50 เมตร เพราะธรรมชาติของทางเดินน้ำจะกัดเซาะลงไปที่ต่ำคือ ลงไปในถ้ำ จึงทำให้ปากถ้ำกว้างมากกว่า 1 เมตร และทางไหลของน้ำตรงลงไปในถ้ำเป็นแนวดิ่ง ซึ่งยังพบว่าคณะสำรวจพบโพรงแล้วนั้น ยังพบค้างคาวบินสวนออกมาด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่แปลกใหม่ที่ได้พบโพรงนี้ ดังนั้น วันนี้จึงจัดเจ้าหน้าที่ไปสำรวจเพิ่ม และกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้น เช่น สายต่อพ่วงของวิทยุสื่อสารให้ยาวขึ้น และแบตเตอรี่สำหรับทำงานอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีปริมาณมากขึ้นด้วย

สำหรับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่หน่วยซีล และตำรวจ ยังมีเจ้าหน้าที่ตชด. ที่จัดเตรียมอุปกรณ์เดินป่าต่างๆไว้พร้อมแล้ว ยังได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์สามขาสำหรับยึดโรยตัวจาก อบจ.เชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ นอกจากนั้นกำลังเดินป่าสำรวจของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ส่วนหนึ่งเดินเท้าเข้าไปที่ผาหมีแล้ว

รวมกำลังผสมครั้งนี้ เตรียมทำงานที่ผาหมีวันนี้จำนวนกว่า 200 นาย และอุปกรณ์หนักทั้งหมดจะลำเลียงด้วยเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อนำอุปกรณ์ลงไปปฏิบัติงาน และเช้าวันนี้ได้นำอุปกรณ์ส่งไปที่ผาหมี ซึ่งอยู่ในยอดเขาเดียวกันกับวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จะอยู่ทางด้านทิศเหนือของเขาลูกนี้ และวันนี้ถือว่าอากาศเปิด ตั้งแต่เช้าฝนยังไม่ตกลงมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน