ตร.ตามรวบแก๊งใจบาปหลอกเงินพระทั่วภาคอีสาน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนา สามารถหาเงินบำรุงเข้าวัดได้ แต่ต้องจ่ายค่าดำเนินการก่อน เจ้าอาวาสหลงเชื่อยอมพาไปถอนเงินจนเกลี้ยง ก่อนแยกย้ายหนี ตร.ตามจับได้หมดเหลือคนสุดท้ายจนมุมที่บุรีรัมย์ เผยมีหมายจับติดตัว 8 หมาย

คุมตัวสอบสวน

เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่กองบังคับการกองปราบปราม พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.อรรถพล พานประทีป พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธิ์ รอง ผกก.3 บก.ป.พ.ต.ต.เอนก บุญตา สว.กก.3 บก.ป. พร้อมกำลัง จับกุมตัว นายอุดร สีพลัง หรือสมศักดิ์ มณีศรี อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/2 หมู่ 5 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ จ.78/2560 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันเอาไปเสียซึ่งเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น”

ขณะจับกุม

พ.ต.อ.บุญลือ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้ร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมไปแล้ว อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ตระเวนไปตามวัดต่างๆ ในพื้นที่ภาคอีสาน อ้างว่าสามารถนำเงินอุดหนุนเพื่อบำรุงวัดและเงินสนับสนุนการพัฒนาวัดได้ แต่ทางวัดหรือเจ้าอาวาสต้องจ่ายเงินค่าดำเนินการประสานงานติดต่องานกับส่วนกลางเบื้องต้นก่อน

โดยเมื่อประมาณเดือนพ.ค.2560 กลุ่มผู้ต้องหาเข้าไปหลอกพระที่วัดกาเกาะ-เสกแอ ต.เทนมีย์ อ.เมืองสุรินทร์ ว่าจะนำงบประมาณมาช่วยสร้างวัดพัฒนาวัด จำนวน 700,000 บาท เจ้าอาวาสจึงหลงเชื่อ ถอนเงินค่าดำเนินการให้กับกลุ่มผู้ต้องหาไปจำนวน 65,000 บาท เมื่อได้เงินแล้วก็แยกย้ายกันหลบหนีไป

ผกก.3 บก.ป. กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 สามารถติดตามจับกุมนายประคอง หรือสมศักดิ์ ชิดสวน อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 5 ต.เม็งราย อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย หัวหน้าแก๊ง และเพื่อนร่วมแก๊งรวม 4 คน เหลือนายอุดรที่ยังหลบหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าผู้ต้องหาหนีมากบดานในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้บริเวณหน้าโรงพยาบาลบุรีรัมย์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

จากการตรวจสอบพบว่า นายอุดรร่วมกันกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ในพื้นที่ภาคอีสาน มีหมายจับของสภ.ต่างๆ ในจังหวัดภาคอีสาน ติดตัวรวม 8 หมาย มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งผู้ร่วมกระทำความผิดบางคนได้เสียชีวิตไปแล้วก็มี

อย่างไรก็ตาม นายอุดรยอมรับว่าตนเองทำหน้าที่เป็นผู้ขับรถ และบางครั้งก็เป็นผู้พาพระเข้าไปเบิกเงินจากธนาคารด้วยตัวเอง จึงนำตัวส่ง สภ.เทนมีย์ จ.สุรินทร์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป