เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 ธ.ค. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ผอ.ศปทส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รรท.ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รอง ผบช.ภ.5, พ.ต.อ.สงวน โรงสะอาด รรท.ผบก.ภ.จว.พะเยา, พ.ต.อ.ทองสุข จรัลพงศ์รอง ผบก.ภ.จว.พะเยา พร้อมด้วย พลตรี สาธิต ศรีสุวรรณ ผบ.มทบ.34, ชุดปฏิบัติการสำนักงานป้องกันปราบปราม กรมอุทยานแห่งชาติ (สปป.3 ภาคเหนือ), ตชด.326 อ.เชียงคำ จว.พะเยา, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาช้าง, หน่วยป้องกันรักษาป่า (พย.13 ออย), หน่วยป้องกันรักษาป่า (พย.7 นาปรัง), ร้อย รส.ที่ 3 กกล.รส.มทบ.34, ร.17 พัน 4 อ.ปง, นปพ.กก.สส.ฯ สภ.ปง จว.พะเยา เข้าร่วมดำเนินการตรวจยึด/จับกุม ไม้แปรรูป ในพื้นที่ อ.ปง จ.พะเยา ซึ่งมีการอำพรางเป็นลักษณะสิ่งปลูกสร้างยึดไม้ของกลางได้จำนวนมาก
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2559 เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานป้องกันปราบปรามกรมอุทยานแห่งชาติ (สปป.3 ภาคเหนือ) เข้าตรวจสอบบริเวณกระท่อมไม่มีเลขที่ ภายในพื้นที่บ้านสันติสุข หมู่ที่ 7 ต.ขุนควร อ.ปง จ.พะเยา พบไม้หวงห้ามแปรรูปจำนวนมาก ซุกซ่อนไว้ในบริเวณพื้นที่เกิดเหตุ และมีการสร้างสิ่งกีดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และจากการตรวจสอบบริเวณใกล้เคียงมีหลายแห่งที่มีพฤติการณ์เช่นเดียวกัน
ต่อมาวันที่ 7 ธันวาคม 2559 เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปทส.ตร. สั่งการให้ รรท.ผบช.ภ.5, รรท. ผบก.ภ.จว.พะเยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ร่วมบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ทหาร, กรมอุทยานแห่งชาติฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการตรวจค้น/จับกุมผู้กระทำผิดในเขตพื้นที่ อ.ปง จ.พะเยา ซึ่งดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วทั้งสิ้น 19 ราย ยึดไม้ของกลางได้ทั้งสิ้น 777 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 15.3 ลูกบาศก์เมตร ไม้ท่อน ทั้งสิ้น 38 ท่อน ปริมาตร 7.04 ลูกบาศก์เมตร
การกระทำของผู้ต้องหา มีความผิดในข้อหา มีไม้สักแปรรูปไม่ว่าจำนวนเท่าใดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีไม้กระยาเลยแปรรูปปริมาตรเกินกว่า 0.20 ลูกบาศก์เมตรไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตระวางโทษ จำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงสองล้านบาท (ประกาศ คสช.ที่ 106/2557 ลง 21 กรกฎาคม 2557 แก้ไข พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484) นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พงส. สภ.ปง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
การดำเนินการในครั้งนี้ ได้ปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลและภายใต้ยุทธการพิทักษ์ทรัพยากรแผ่นดินสู่ความยั่งยืน ขั้นที่ 2 ของศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มุ่งเน้นการปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ที่กระทำโดยนายทุน ผู้มีอิทธิพล เพื่อตัดตอนต้นทางของขบวนการ จากการที่ได้ดำเนินการในครั้งนี้ จะเห็นว่า มีการทำเป็นขบวนการ ใช้ชาวบ้านไปตัดไม้ในป่า แล้วนำมาอำพรางเป็นบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างชั่วคราว
จากนั้นจะมีนายหน้าหรือนายทุนนำไปขายให้กับผู้รับซื้ออีกทอดหนึ่ง ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่เป็นอยู่ในขณะนี้ หากไม่รีบแก้ไขปัญหา ป่าไม้ของประเทศไทยต้องหมดไปอย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากจับกุมในครั้งนี้ จะทำการสืบสวนขยายผลถึงนายทุน ผู้รับซื้อและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และจะนำมาตรการทางการเงิน ภาษี และการยึดทรัพย์มาดำเนินการกับผู้กระทำผิดด้วย
