สาวโดน 4 หื่นรุมโทรม เสียใจหนักฆ่าตัวตาย โคม่า ชี้ปมอ้างตร.ไม่รับแจ้งความ
กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ทันที เมื่อ เพจ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีพบเหยื่อทางอาชญากรรม ซึ่งเป็นหญิงสาว โดยระบุว่า โดนรุมโทรม และ เจ้าหน้าที่ไม่รับดำเนินคดีจน ตัดสินใจฆ่าตัวตาย โดยระบุว่า “มีคดีรุมโทรมหญิงเกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.เมืองลำปาง ผู้เสียหายถูกรุมโทรม 4 คน และถูกถ่ายคลิปไปแจ้งความที่ สภ.เมืองลำปาง พนักงานสอบสวน ไม่รับแจ้งความเป็นคดีจนผู้หญิงที่ถูกรุมโทรมกินยาฆ่าตัวตายขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ รพ. โอกาสรอด20% พรุ่งนี้ชมรมจะนำคลิปญาติผู้เสียหายร้องไห้ขอความเป็นธรรมเผยแพร่ถึงความระยำอัปปรีย์ของคดีนี้ให้สังคมรับรู้ ฝากท่านผบ.ตรให้ช่วยด้วย”
ล่าสุดผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไป ตรวจสอบและสอบถามความจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้ หลังเกิด ขึ้น ในเขตพื้นที่สถานีตำรวจภูธรเมืองลําปาง โดย พ.ต.อ.ไกรสิทธิ์ พรหมปฏิมา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง ได้นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวนเข้าไป สอบถามรายละเอียด เพื่อทราบความจริง ที่โรงพยาบาลลำปาง
หลังมีข่าวแพร่สะพัด ว่า หญิงสาวผู้เสียหายคนดังกล่าวเกิดความเสียใจ และได้กิน ยาฆ่าแมลงหวังจะฆ่าตัวตายแต่ขนาดนี้มีอาการป่วย และนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง เป็นหญิงสาววัย 22 ปีชาว บ้าน อ.งาว จลำปาง ซึ่งขณะนี้กำลังนอนป่วยและอยู่ในความดูแลของแพทย์และโรงพยาบาลโรงพยาบาลลำปาง
เมื่อสอบถามสามีวัย 33 ปี สามี ของหญิงสาวคนดังกล่าว ก็ทราบความว่าเบื้องต้นนั้น ในวันเกิดเหตุเมื่อ ประมาณ วันที่ 14 ก.ค.61 ได้มาส่งแฟนสาวตนเองขึ้นรถตู้เพื่อจะมาทำธุระในเขตอำเภอเมืองจังหวัดลำปาง โดยออกจาก บริเวณจุดขึ้นรถตู้ แถว ๆ ประตูผาอำเภองาว จังหวัดลำปางมาแต่ปรากฏว่าหญิงสาวคนดังกล่าวนั้น กลับมาบ้าน แล้วเกิดอาการเซื่องซึม และได้ก่อเหตุกินยาฆ่าแมลง ในวันถัดมา และก่อนเกิดเหตุ กินยาฆ่าแมลง สาวผู้เคราะร้าย ได้เล่าเรื่องต่างๆให้พ่อแม่ฟังว่า ถูก ล่วงละเมิดทางเพศดังกล่าว
ส่วนเรื่อง การถูกล่วงละเมิดทางเพศถึง 4 ราย นั้น สามีของผู้เสียหายบอกว่ายังไม่ทราบเรื่อง เพราะแฟนสาวยังให้การไมได้ ซึ่งกันและก็ตามขณะนี้ทางตำรวจ สภ.เมือง ลำปาง ยังไม่แน่ชัด เกี่ยวกับคำบอกเล่าของหญิงสาวดังกล่าวเพราะต้องสอบสวนพยานและผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ที่อยู่ในรถตู้และสถานที่ ที่ลงมือก่อเหตุ คือ โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวอำเภอเมืองจังหวัดลำปางว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวลักษณะดังกล่าวขึ้นจริงหรือไม่ ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วตำรวจขอเวลาสืบสวน และหา รายละเอียดที่แท้จริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป
