จับโจรผัว-เมีย ก่อเหตุยกเค้า บ้าน‘หมอพรทิพย์’ ตร.แฉประวัติโชกโชน มีหมายจับติดตัว 12 คดี ตามแกะรอยจากรถรับส่ง ก่อนรวบเฒ่า 73 ร่วมแก๊ง พร้อมของกลางแหวนนพเก้า 3 วง หิ้วสอบ ขยายผลตามไปจับ 2 ผัว-เมีย พร้อมของกลางร้อยกว่ารายการ น.1นำทีมแถลงรายละเอียด

จับโจรผัว-เมีย

นาทีจับ นายเอนก แก้วสอาด อายุ 73 ปี คนขับรถ

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 พ.ต.อ.มานพ น่วมลิวงศ์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.อดิศักดิ์ ชูพันธุ์ ผกก.สน.บางชัน พ.ต.ท.อุตรมาตย์ รองผกก.สส.สน.บางชัน พ.ต.ท.จักริน พิริยะจิตตะ สว.สส.บก.น.4

จับโจรผัว-เมีย

ภาพวงจรปิดคนร้าย

จับโจรผัว-เมีย / แถลงจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์ ภายในบ้านของพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ พร้อมของกลาง นาฬิกาข้อมือ สร้อยคอ แหวน พระเครื่อง เครื่องประดับต่างๆ กระเป๋าแบรนด์เนม ธนบัตรเก่าสะสม รวมกว่า 154 รายการ

พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. เวลาประมาณ 14.00 น. เกิดเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในหมู่บ้านสัมมากร รามคำแหง 112 แขวงและเขตสะพานสูง

จับโจรผัว-เมีย

ตร.ยึดของกลาง

จากการตรวจสอบภาพวงจรปิด พบคนร้ายอายุประมาณ 35-45 ปี สูงประมาณ 170 ซ.ม. สวมเสื้อยืดคอกลม ลายขวางสีน้ำเงิน กางเกงผ้าสีดำ รองเท้าแตะ หลบหนีโดยใช้รถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีทอง ทะเบียน ชท 5181 กรุงเทพมหานคร

เมื่อตรวจสอบผู้ครอบครองรถ ปรากฎว่าเป็นของนายเอนก แก้วสอาด หรือแดง อายุ 73 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปติดตามจับกุมได้ ที่หน้าร้านแมคโดนัลด์ สาขาทิวลิปสแควร์ ถนนเกษม ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 11 ก.ค. พร้อมรถที่ใช้ก่อเหตุ และแหวนนพเก้า 3 วง

จับโจรผัว-เมีย

เอาของที่ขโมยมาโชว์เต็มบ้าน

จากนั้นชุดจับกุมนำแหวนนพเก้าให้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ตรวจสอบ ยืนยันว่าเป็นของที่ถูกโจรกรรมไป

ขณะที่นายเอนก สารภาพว่า ได้ร่วมกับนายสุข ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง เป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ ไปลักทรัพย์ในหมู่บ้านสัมมากรจริง โดยตนเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถไปส่งนายสุข ไปก่อเหตุ และจะขับมารับหลังก่อเหตุเสร็จ

ทรัพย์สินที่ได้จะนำไปแบ่งกันที่ห้องเช่าบริเวณคลองหลวง ซอย 13 ต.คลอง 1 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยครั้งนี้ตนได้ส่วนแบ่งเป็นแหวนนพเก้า 3 วง พระเลี่ยมทอง และเงินสด

จับโจรผัว-เมีย

ผบช.น.นำทีมแถลง

พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวต่อว่า ต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.บางชันและกก.สส.บก.น.4 ร่วมกันนำข้อมูลคดีที่พบการก่อเหตุของคนร้าย ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน มาวิเคราะห์ความเชื่อมโยง

จนทราบว่านายสุข คือนายทองสุข แก้วหาวงษ์ มีประวัติหลบหนีหมายจับ คดีลักทรัพย์ในเคหะสถานจำนวน 12 หมาย โดยมีประวัติร่วมกันก่อเหตุกับภรรยา คือ น.ส.พัทธนันท์ อธิชัยจารุพงษ์ อายุ 41 ปี โดยทั้งคู่อยู่ระหว่างหลบหนีประกันตัวชั้นศาล ในคดีเกี่ยวกับการลักทรัพย์

กระทั่งวันที่ 25 ก.ค. เวลาประมาณ 11.30 น. ตำรวจสามารถจับกุมน.ส.พัทธนันท์ ได้ที่บริเวณหน้าอาคารชารีออท เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และไปจับกุมตัวนายทองสุข ได้ที่บ้านเลขที่ 359/7 หมู่บ้านพีเอ็มซี 4 โฮม ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมของกลาง 154 รายการ

สอบสวนนายทองสุขให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ในหมู่บ้านสัมมากรจริง จำนวน 5 ครั้ง แต่ได้ทรัพย์สินไปเพียง 2 ครั้ง โดยจะเลือกหมู่บ้านเก่าที่ไม่ค่อยมีคนอยู่บ้าน ไม่มีการแลกบัตรเข้าหมู่บ้าน และเชื่อว่าเจ้าของบ้านน่าจะมีทรัพย์สินจำนวนมากเก็บไว้ จากนั้นจ้างคนสนิทไปดูลาดเลา และให้ขับรถไปส่งในหมู่บ้านเกิดเหตุ

โดยจะเลือกก่อเหตุเวลากลางวัน ใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อเสร็จจะนำทรัพย์สินมาแบ่งกัน และบางชิ้นจะนำไปมอบให้ น.ส.พัทธนันท์ เพื่อนำไปขายตามร้านต่างๆ

จากการตรวจสอบประวัตินายทองสุข มีหมายจับในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน ตั้งแต่ปี 2558-2561 จำนวน 12 หมาย ในท้องที่กรุงเทพมหานคร สระบุรี ลพบุรีและเชียงใหม่

เบื้องต้นแจ้งข้อหานายทองสุขและนายเอนก “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อพาทรัพย์หลบหนี”

ส่วนน.ส.พัทธนันท์ ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อพาทรัพย์หลบหนี หรือรับของโจร” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคน และฝากถึงผู้อยู่อาศัยทุกคนต้องมีระบบดูแลตนเองให้รัดกุม ไม่เปิดช่องว่างให้โจรมาขึ้นบ้าน

“ที่บ้านไม่ได้ติดกล้องวงจรปิด เข้าใจว่าหมู่บ้านมันดี บทเรียนครั้งนี้ ทำให้ตำรวจทำงานยากมาก ภาพวงจรปิดที่ได้ ก็ไม่ดีทำให้ภาพไม่ชัด ส่วนแหวนของกลางที่ได้คืน โชคดีที่มันไม่มีค่ามาก ทำให้เขาไม่นำไปขาย เลยตามตัวผู้ต้องหาได้” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน