พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในโอกาสเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ณ พระราชวังกรุงทิมพู ราชอาณาจักรภูฏาน เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่า ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ตน นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม และคณะรวม 6 คนมาก ทรงให้คณะของไทยเข้าเฝ้าในวันครบรอบ 10 ปีแห่งการครองราชย์ ตนและคณะรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านที่ให้เข้าเฝ้าฯ ทรงมามารอรับคณะบริเวณที่รถแล่นเข้ามาจอดด้านหน้าพระตำหนัก ซึ่งเป็นบ้านหลังใหม่ของพระองค์ เป็นบ้านที่พระองค์ประทับจริงๆ

พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวต่อว่า ตนและคณะรู้สึกปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงเสด็จนำคณะราชวงศ์เสด็จฯเคารพพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในนามของรัฐบาลไทย ตนขอขอบคุณทั้งรัฐบาลภูฏานและประชาชนชาวภูฎานที่ได้ร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณร่วมกับชาวไทย และหลังจากเหตุการณ์สวรรคต พระองค์ก็ได้ให้ชาวภูฏานได้มีประกอบพิธีสวดมนต์ตลอด และถึงแม้จะเลยเวลา 49 วันมาแล้วก็ยังคงมีการสวดมนต์ถวายแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 อยู่

“สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ทรงตรัสว่าในหลวงรัชกาลที่ 9 ของไทยทรงเป็นต้นแบบในการทรงจดจำเพื่อดูแลพสกนิกรและการดำเนินโครงการต่างๆเพื่อประชาชน ซึ่งพระองค์ได้น้อมนำมาเป็นต้นแบบในการปกครองประชาชนภูฏาน โดยทั้งสองราชวงศ์ มีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้นมาตั้งแต่สมัย สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก เสด็จพ่อของพระองค์ ซึ่งเสด็จพ่อของพระองค์ก็มีในหลวงเป็นแบบอย่างเช่นกัน ของไทยมีเศรษฐกิจพอเพียง ขณะที่ภูฏานจะเป็นการดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมในแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงแบบไทย ผมรู้สึกปลาบปลื้มมาก ท่านทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีความรู้ความสามารถ ถ่อมพระองค์ ในความรู้สึกของชาวไทยก็ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ต่างประเทศที่คนไทยให้ความเคารพรักและเทิดทูน นิยมชมชอบในพระองค์มาก ผมเห็นว่าพระราชวงศ์ของภูฏานก็เหมือนกับราชวงศ์ของไทย ซึ่งชาวไทยก็มีความรักและเทิดทูนสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เช่นเดียวกัน” พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าว

พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า สำหรับความสนิทสนมกับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ของไทย ทรงมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกันมาตั้งแต่ทั้งสองพระองค์ยังเป็นเจ้าชาย และมกุฎราชกุมาร จึงมั่นใจในความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ร่วมกันสร้างความเจริญรุ่งเรืองของสองประเทศต่อไปในภายหน้า ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 10 ของไทย เคยเสด็จมายังภูฏาน พระองค์ยังทรงฝากถวายความระลึกถึงรัชกาลที่ 10 และจะกราบทูลเชิญเมื่อมีโอกาสมาเยือนภูฏาน

พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ในการเข้าเฝ้าครั้งนี้พระองค์ทรงพาเดินชมรูปของพระองค์และกษัตริย์องค์รัชกาลก่อนหน้านี้ และเล่าถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของราชวงศ์ว่ามาจากไหนอย่างไร พระองค์ไม่ทรงโปรดอยู่ในวังใหญ่ๆ วังที่ประทับก็เหมือนบ้าน ประหยัดไฟมาก บริเวณสนามหน้าบ้านไม่มีไฟสนาม มีแต่ไฟตามขั้นบันได โดยมหาดเล็กถือไฟฉายคอยส่องทางให้ พอเดินออกมาจากห้องก็ปิดไฟทุกห้อง ทรงวางพระองค์เหมือนกับราชวงศ์ของไทยคือมุ่งพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชน ตอนพระองค์มาประเทศไทยเห็นว่าบ้านเมืองมีความสะอาดมาก พระองค์เลยทรงจัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ขึ้นมาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยมีราชวงศ์ สมเด็จพระราชินี ผู้นำรัฐบาล และประชาชนออกไปทำความสะอาดหมด พระองค์ตรัสว่าท่านดูจากไทย

พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกันพระองค์ทรงฝากความระลึกถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และจะเชิญมาภูฏานเมื่อมีโอกาสเหมือนกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้เราประทับใจ พระองค์ทรงรักเรา ทรงเป็นกันเอง นอกจากนี้ตนยังได้พบกับแพทย์ใหญ่ประจำพระองค์ ได้หารือกันเรื่องหน่วยแพทย์พระราชทานประจำพระองค์ ทรงจัดโมบายทีม คล้ายกับหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่ของไทย ซึ่งจะประสานความร่วมมือกันต่อไป

พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวต่อว่า พระองค์ยังทรงเล่าว่า เวลากลับไปที่มหาวิทยาลัยออกฟอร์ด สหราชอาณาจักร ไปเยี่ยมโรงเรียนเก่า ได้ไปซื้อไม้เท้าเพื่อจะมาฝากเสด็จปู่ท่าน แต่เจ้าของร้านไม่รับเงิน และถามพระองค์ว่าคือกษัตริย์จิกมีใช่มั้ย พระองค์ทรงปฏิเสธว่าไม่ใช่ แต่เจ้าของร้านบอกว่าจำพระองค์ได้ เพราะคนไทยรักท่าน อยากถวายให้ ไม่ขอรับเงิน พอรู้ว่าเป็นร้านคนไทย พระองค์ทรงตรัสว่า เมื่อได้ยินคำพูดนั้นจากเจ้าของร้านซึ่งเป็นคนไทยน้ำตาพระองค์แทบไหล รู้สึกซาบซึ้งในความรักของคนไทยที่มีต่อพระองค์และราชอาณาจักรภูฏานมากพระองค์รู้สึกประทับใจเหตุการณ์ในวันนั้นเป็นอย่างมาก ซึ่งพระองค์เห็นว่าทั้งสองประเทศจะก้าวหน้าไปด้วยกันด้วยดีทั้งความสัมพันธ์ระดับราชวงศ์ รัฐบาล และประชาชน

ขอบคุณภาพ His Majesty King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน