เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถาม น.ส.บุษบา คำเจริญ ลูกสาวคนกลางของครูลพ บุรีรัตน์ ครูเพลงชื่อดัง ถึงการเสียชีวิตของบิดา เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 10 ธ.ค. ที่ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ด้วยวัย 77 ปี ทั้งนี้ น.ส.บุษบา ยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ได้เนื่องจากมีอาการเศร้าเสียใจอย่างหนัก ด้านเลขาฯ ของน.ส.บุษบา จึงได้ให้สัมภาษณ์แทนว่า ครูลพ เสียชีวิตอย่างสงบด้วยอาการปอดติดเชื้อ เมื่อเวลา 20.16 น. หลังจากเข้ารับการรักษาตัวตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. ที่ โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์ จากนั้นก็ย้ายมาที่โรงพยาบาลบางโพ และโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ตามลำดับ ในตอนนั้นอาการป่วยของครูลพไม่ดีขึ้น รวมถึงครูลพเป็นมะเร็งที่ท่อน้ำดีในตับด้วยแต่ยังไม่สามารถรักษาได้เนื่องจากปอดยังไม่ดี จึงต้องทำการรักษาในส่วนของปอดติดเชื้อให้ดีก่อน แต่ก็ไม่ทันครูลพมาสียชีวิตไปเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวถามถึงสภาพจิตของคนในครอบครัว เลขาฯ คนเดิมกล่าวว่า ลูกสาวทั้ง 3 คนของครูลพ ได้แก่ ดารณี บุษบา และชนิกา ยังอยู่ในช่วงเวลาทำใจกันทั้งหมด ที่ผ่านมาทุกคนช่วยกันดูแลครูลพอย่างดีมาตลอด รวมถึงเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการรักษาก่อนหน้าที่จะเสียชีวิตก็พยายามจะช่วยกันเท่าที่ทำได้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเหมือนกัน สำหรับพิธีรดน้ำศพจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 12 ธ.ค. เวลา 15.30 น. โดยทางครอบครัวได้ขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และสวดอภิธรรมเป็นเวลา 7 วัน ที่ ศาลา 10 วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน หลังจากนั้นจะเก็บศพไว้ 100 วัน แล้วค่อยทำพิธีฌาปนกิจ
ด้าน จอมขวัญ กัลยา นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ซึ่งเคารพรับถือ ครูลพ บุรีรัตน์ เหมือนพ่อคนหนึ่ง กล่าวว่า ตนทราบข่าวการเสียชีวิตของครูลพเมื่อตอน 2 ทุ่มของเมื่อวานนี้ (10 ธ.ค.) พอทราบข่าวก็ร้องไห้เลย ตอนนั้นตนไปร้องเพลงที่ร้านอาหารสองแควคาเฟ่ จ.พิษณุโลก พยายามติดต่อลูกสาวของครูลพแต่ไม่สามารถต่อได้ คาดว่าคงกำลังยุ่งเรื่องการจัดการศพอยู่ แม้ว่าก่อนหน้านี้ทราบมาตลอดครูลพป่วยหนักแต่ก็ไม่คิดว่าจะมาจากไปเร็วเช่นนี้ ช่วงที่ครูลพเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์ได้ไม่กี่วัน ตนได้นำกระเช้าไปเยี่ยมในนามของสมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย หลังจากนั้นที่ครูลพย้ายโรงพยาบาลไปอีก 2 แห่งก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยม ส่วนหนึ่งเพราะครูลพรักษาตัวในห้องไอซียูด้วยทางคุณหมอและครอบครัวจึงไม่สะดวกให้เข้าเยี่ยม

 

“ตอนไปเยี่ยมมาล่าสุดครูยังสามาถพูดคุยได้ปกติ ร้องพลงให้ฟังได้ หน้าตาก็สดชื่น ยังบอกเลยว่าอีกไม่กี่วันครูก็กลับบ้านได้แล้ว ครูบอกด้วยว่าอยากจะขอคุณหมอกลับบ้านเหมือนกัน หลังจากนั้นอาการป่วยของครูทรุดลงเรื่อยๆ และมีการย้ายโรงพยาบาลด้วย แต่ก็พยายามโทร.ถามลูกสาวของครูตลอดว่าอาการของครูเป็นยังไงบ้าง หมอให้เข้าเยี่ยมหรือยัง ลูกสาวครูบอกว่าอาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สุดท้ายครูก็ย้ายไปอีกโรงพยาบาลก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมอีกเลยจนมาเสียชีวิตในที่สุด” จอมขวัญกล่าว
ต่อข้อถามถึงความสนิทสนมกับครูลพ บุรีรัตน์ ลูกทุ่งคนดังกล่าวว่า ตนเคารพนับถือครูลพเป็นพ่อคนหนึ่ง รู้จักกันมาตั้งแต่ตอนที่ตนยังไม่ได้เป็นนักร้องของค่ายไหนเลย ครูรักและเอ็นดูตนมากเพราะชอบเสียงและสไตล์การร้อง จนมีโอกาสได้ร้องเพลงที่ครูแต่งคือ ‘ข้าวคำสุดท้าย’ ซึ่งเพลงนี้ทำให้ตนได้รับรางวัลรางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยม ปี พ.ศ.2549 รางวัลมาลัยทองอีกด้วย หลังจากนั้นตนไปมาหาสู่ครูลพตลอดในโอกาสสำคัญๆ แม้กระทั่งวันที่ไปเยี่ยมครั้งล่าสุดครูลพยังบอกด้วยว่าเพลงที่ครูได้แต่งถวายในหลวงมีเยอะ ตนสามารถเอาไปร้องได้เลยโดยไม่คิดค่าลิขสิทธิ์ ตนมีโอกาสได้ร้องเพลงที่ครูลพแต่งให้เพลงเดียวคือ ‘ข้าวคำสุดท้าย’ ส่วนอีกเพลงที่เป็นจังหวะโจ๊ะๆ เป็นมาสเตอร์อยู่ยังไม่ได้ออกมาเป็นซิงเกิลที่นำเผยแพร่ ในวันนี้ที่ครูลพจากทุกคนไปแล้ว ขอให้ดวงวิญญาณของครูไปสู่สุคติ นอนหลับพักผ่อนให้สบาย ความดีและผลงานของครูยังคงอยู่ในใจของนักร้องลูกทุ่งและประชาชนคนไทยตลอดไป

 
เปาวลี พรพิมล นักร้องลูกทุ่งรุ่นใหม่ กล่าวว่า ตนมีโอกาสได้ไปกราบครูลพช่วงปีใหม่เมื่อหลายปีแล้ว รวมถึงได้เจอกันตอนที่เล่นหนังเรื่องพุ่มพวง แต่ว่าไม่ได้มีโอกาสได้เจอกันบ่อยมาก ล่าสุดจำได้เจอครูลพตอนที่ภรรยาของครูไม่สบาย หลังจากนั้นก็ทราบข่าวว่าครูลพป่วยเหมือนกันแต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยม ทราบข่าวว่าครูลพเสียชีวิตเมื่อเช้านี้ รู้สึกใจหายมากว่าครูเพลงที่สร้างชื่อเสียงให้กับนักร้องลูกทุ่งที่เป็นอมตะอย่างแม่ผึ้ง (พุ่มพวง ดวงจันทร์) ได้จากโลกนี้ไปแล้ว ตนอยู่ในเส้นทางของลูกทุ่งมาระยะหนึ่ง มีโอกาสได้นำบทเพลงของแม่ผึ้ง ซึ่งครูลพเป็นคนแต่งไว้มาร้องหลายเพลง อยากจะขอบคุณที่ครูได้สร้างผลงานดีๆ ไว้ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้และฟังกัน การจากไปของครูลพครั้งนี้ถือเป็นการสูญเสียชีวิตครั้งยิ่งใหญ่ของวงการลูกทุ่ง
“ความประทับใจที่มีต่อครูลพ ครูเป็นคนใจดี มีเมตตา ตอนที่เปาได้ไปกราบครูก็ต้อนรับและเอ็นดูในฐานะที่เป็นศิลปินรุ่นใหม่ๆ แม้ว่าจะไม่ได้ใกล้ชิดครูมาตั้งแต่สมัยแรกๆ ก็ตามค่ะ” ลูกทุ่งสาวกล่าว

 

นกน้อย-บริพันธ์ ชัยภูมิ นายกสมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตนทราบข่าวว่าครูลพเสียชีวิตเมื่อคืนนี้ (10ธ.ค.) ความรู้สึกคือตกใจและใจหายเพราะครูทำเพลงให้กับทางสมาคมฯ ค่อนข้างเยอะ จริงๆ รู้ข่าวว่าครูเจ็บป่วยมาเป็นเวลานาน เมื่อก่อนมีโอกาสได้ไปเยี่ยมอยู่บ่อยๆ แต่ครั้งนี้ดูจะนานกว่าทุกครั้ง ยิ่งมารู้ว่าเข้าไอซียูและเริ่มไม่รู้สึกตัวก็รูสึกใจคอไม่ค่อยดี ทางสมาคมฯ ก็มีการปรึกษาหารือพอสมควรว่าจะช่วยเหลือยังไงดี ก่อนหน้านั้นมีการได้พูดคุยกับทางคุณไผ่-บุษบา คำเจริญ ลูกสาวของครูลพ เรื่องการช่วยเหลือนี้ จนมาทราบข่าวการเสียชีวิตของครูยิ่งรู้สึกว่ามันคือเรื่องใหญ่ในวงการลูกทุ่งเพราะครูลพ เป็นหนึ่งในเทพสายการแต่งเพลง รวมถึงเป็นที่รักของคนในวงการลูกทุ่งมานาน คิดว่าก็ต้องพยายามทำอะไรเพื่อครูสักอย่างหนึ่ง นอกเหนือจากการไปร่วมงาน อาจจะมีการจัดงานรำลึกถึงครูลพแต่ทั้งหลายทั้งปวงอยู่ภายใต้คุณไผ่ซึ่งเป็นลูกสาวที่จะต้องเป็นคนตัดสินใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนของสมาคมฯ มีการช่วยเหลือเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษามาก่อนหน้านี้บ้างไหม นกน้อย กล่าวว่า เนื่องจากครูลพเจ็บป่วยมาเป็นเวลานาน สมาคมฯ ก็ช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายการรักษาครั้งละหนึ่งหมื่นบาทเป็นระยะ พอครูเสียชีวิตสมาคมฯ ก็ต้องช่วยเหลืออีก ตนชื่นชมคุณไผ่อย่างมาก พูดเต็มปากเต็มคำได้เลยว่าครอบครัวของครูมีปัญหาเรื่องการค่าใช้จ่ายอยู่บ้าง แต่คุณไผ่ก็จะบอกเฉพาะคนใกล้ตัวเพราะคุณไผ่เกรงใจไม่อยากรบกวนใครและไม่อยากให้ถูกมองว่าคุณพ่ออนาถา คำว่าเดือนร้อนไม่ได้หมายถึงว่าไม่มีเลย คือมีแต่ว่าก็จ่ายไปเยอะมากเพราะโรงพยาบาลบางแห่งที่ไปรักษาเป็นโรงพยาบาลเอกชนและอยู่ห้องไอซียูตลอด ฉะนั้นปัญหาเรื่องค่ารักษามีแน่ๆ แต่ว่าคุณไผ่ไม่ใช่คนกระโตกกระตาก ใครที่รู้ก็จะไปช่วยเหลือและเยียวยากันเอง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าที่บอกจะมีการจัดงานรำลึกนั้นถึงขั้นเป็นคอนเสิร์ตเลยไหม นายกสมาคมฯ กล่าวว่า การจัดงานมันมีได้ด้วยกันหลายรูปแบบ อาจจะไม่ได้ถึงขั้นคอนเสิร์ต อาจจะเป็นการรวมตัวของลูกศิษย์ลูกหาไปร้องเพลงแสดงความอาลัยต่อครูบาอาจารย์ เพียงแต่ว่าคอนเสิร์ตอาจจัดขึ้นเพื่อให้รายได้กับครอบครัวซึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 
สำหรับครูลพ บุรีรัตน์ ครูเพลงชื่อดัง มีชื่อจริงว่า วิเชียร คำเจริญ ชื่อเล่น หงิม เกิดเมื่อ 6 พฤษภาคม พ.ศ.2482 ที่ อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี เคยได้สมัครตัวเป็นลูกศิษย์เรียนเขียนเพลงกับครูไพบูลย์ บุตรขัน เจ้าของฉายา อัจฉริยะนักแต่งเพลงอันดับหนึ่งของไทย จนกระทั่งได้แต่งเพลง กอดหมอนนอนเพ้อ ซึ่ง ทูล ทองใจ นำมาขับร้องในภายหลัง โดยในครั้งนั้นครูไพบูลย์ชื่นชมในลีลาการแต่งเพลงของครูลพเป็นอย่างมาก
ต่อมาท่านได้แต่เพลงสร้างชื่อให้กับนักร้องลูกทุ่งมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ยอดรัก สลักใจ, ศรเพชร ศรสุพรรณ, ก้องเพชร แก่นนคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอดีตราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ทั้งเพลง สาวนาสั่งแฟน อื้อฮือหล่อจัง กระแซะเข้ามิซิ ดาวเรืองดาวโรย นัดพบหน้าอำเภอ
ครูลพ บุรีรัตน์ ได้รับยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง(นักแต่งเพลงลูกทุ่ง) ประจำปี พ.ศ.2548

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน