ร้องกองปราบ หนุ่มโดนยิงดับคาเก๋ง พยานสำคัญโดนขู่หนักผูกคอตาย คดีไม่คืบ!

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ส.ค. ที่กองปราบปราม นายวรินทร์ อัฐนาค ประธานชมรมโดมเพื่อคุณธรรม ได้พานางเรณู อุ่นหะวงค์ อายุ 62 ปี พระมหาอภิรักษณ์ แม่และพี่ชายของของนายฐิตินนท์ ดับโศรก อายุ 28 ปี ที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในรถเก๋ง เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มี.ค. ริมถนนสายพนมสารคาม หมู่ที่ 8 บ้านบางพุทรา ต.เมืองใหม่ อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา แต่คดีผ่านมานานกว่า 4 เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สุรสิทธิ์ โชว์สูงเนิน สว.กก.4 บก.ป. เพื่อขอให้กองปราบฯเข้าไปดำเนินการแทนตำรวจ สภ.ราชสาสน์ ด้วย เพราะคดีไม่คืบหน้า

นายวรินทร์ กล่าวว่า วันนี้พาญาติของผู้ตาย มาร้องขอให้โอนย้ายคดีดังกล่าวมาให้กองปราบดำเนินการต่อ เพราะไม่ไว้วางใจการทำงานของตำรวจ สภ.ราชสาส์น ประกอบกับคดีนี้ทางญาติมีเบาะแสว่าคนร้ายเป็นคนในพื้นที่ และเป็นลูกน้องของนักการเมืองท้องถิ่นที่มีอิทธิพล อีกทั้ง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีนี้ยังถูกย้ายไปแล้วด้วย ทำให้ยังไม่สามารถตามจับคนร้ายได้แต่อย่างใด นอกจากนี้ พลทหารภาณุวัฒน์ อุ่นหะวงศ์ ลูกพี่ลูกน้องกับผู้ตาย ซึ่งเป็นพยานสำคัญในคดีนี้ ก็ยังถูกข่มขู่จากกลุ่มอิทธิพล ทำให้เกิดความเครียดถึงขั้นผูกคอฆ่าตัวตายตามไป หลังเกิดเหตุแค่ 4 วันเท่านั้น

ด้าน พระมหาอภิรักษณ์ เปิดเผยว่า ตนเองเป็นพี่ชายของผู้ตาย วันเกิดเหตุทราบว่าน้องชายได้นัดเจรจากับลูกน้องคนสนิทของนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่ง หลังขับรถเก๋งส่วนตัวออกจากบ้านไปไม่นาน จนถึงจุดเกิดเหตุก็มีมือปืน 2 คน มาดักรอและใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงน้องชายจำนวน 5 นัด เสียชีวิตคาที่ ส่วนปมสังหารทางตำรวจตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ชัดแย้งในเรื่องส่วนตัว และทางธุรกิจ

ซึ่งทางญาติๆ ก็ยอมรับว่าปมสังหารก็น่าจะมาจากทั้ง 2 ประเด็น เพราะผู้ตายเคยทำอาชีพเงินกู้นอกระบบร่วมกับนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง มาในระยะหลังก็เแยกตัวมาทำเอง จนไปเกิดปัญหากับนักการคนดังกล่าว ก็เลยตัดสินใจเลิก ก่อนจะหันไปเปิดร้านขายปุ๋ยกับภรรยาที่ จ.กาฬสินธุ์ ก่อนจะมาถูกยิงจนเสียชีวิตดังกล่าว เชื่อว่าปมสังหารน่าจะมาจากเรื่องเดียวเท่านั้นคือเรื่องเงินกู้

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ และตรวจสอบหลักฐานที่ญาติผู้ตายนำมามอบให้ ก่อนส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการต่อไป