เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง กรุงเทพมหานคร นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) พระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2559 เนื่องในโอกาสแรกนับแต่ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ ว่าขณะนี้ยังไม่มีการปล่อยตัวผู้ต้องขังแต่อย่างใด เนื่องจากทางเรือนจำแต่ละแห่ง อยู่ระหว่างตรวจสอบคัดรายชื่อผู้ต้องขังที่เข้าหลักเกณฑ์ตามพ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษดังกล่าว
ก่อนจะเสนอไปยังคณะกรรมการพิจารณา ซึ่งประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้พิพากษา และอัยการ จากนั้น ก็จะนำรายชื่อผู้ต้องขังเสนอศาลเพื่อทำหมายปล่อยตัวต่อไป ทั้งนี้ ตนไม่ได้มีการกำหนดกรอบระยะเวลาในการปล่อยตัวผู้ต้องขัง ที่ได้รับสิทธิในการปล่อยตัวแต่อย่างใด หากเรือนจำไหนพร้อมก็สามารถปล่อยได้ทันที ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องขังที่จะได้รับการปล่อยตัวพ้นมีประมาณ 30,000 คน โดยรวมถึงกลุ่มที่ลดวันต้องโทษและครบเงื่อนไขการปล่อยตัว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พอจะทราบแล้วหรือไม่ว่า ผู้ต้องขังที่มีชื่อเสียงในสังคมคนใดบ้าง ที่จะได้รับการปล่อยตัวหรือเข้าหลักเกณฑ์ตามพ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ นายกอบเกียรติ กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบประเด็นนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะไปกระทบสิทธิของผู้ต้องขัง อีกทั้ง หากผู้ต้องขังคนใดที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์เนื่องจากยังเป็นผู้ต้องขังชั้นเลว หรือยังไม่ได้รับการจัดชั้นผู้ต้องขัง ก็อาจไปกระทบต่อความรู้สึกของครอบครัวของผู้ต้องขังก็ได้ เพราะสังคมอาจมองว่าเขาเป็นนักโทษชั้นเลว ดังนั้น บางเรื่องก็ไม่ควรที่จะพูดออกไป
นายกอบเกียรติ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ต้องขังที่จะได้รับการปล่อยตัวพ้นเรือนจำนั้น ตนอยากให้สังคมให้โอกาสเขาได้กลับไปใช้ชีวิตแบบปกติ เพราะเชื่อว่าถ้าคนกลุ่มนี้ได้รับโอกาสและมีงานทำ ก็จะไม่กลับมากระทำผิดซ้ำอีก ซึ่งในเรือนจำเราก็ได้เตรียมพร้อมในการให้เขาได้ฝึกอาชีพ ขัดเกลาจิตใจ และปรับทัศนคติเขาบ้างแล้ว ตามนโยบาย 5 ก้าวย่างของรมว.ยุติธรรม ซึ่งมีการจัดฝึกอบรมอาชีพ ให้การศึกษา รวมทั้งส่งเสริมด้านจิตใจในเรื่องของพระพุทธศาสนาให้กับผู้ต้องขังอีกด้วย
ด้าน นางชฎาพร รักษาทรัพย์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ในส่วนของทัณฑสถานหญิงกลาง เบื้องต้นพบว่ามีผู้ต้องขังที่เข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา 6 ของพ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ ซึ่งจะได้รับการปล่อยตัวพ้นเรือนจำทันทีประมาณ 80 คน และมีผู้ต้องขังที่จะเข้าหลักเกณฑ์ได้ลดวันต้องโทษและครบเงื่อนไขการปล่อยตัวอีก 300-400 คน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เราอยู่ระหว่างตรวจสอบและคัดทำรายชื่อ ก่อนเสนอคณะกรรมการพิจารณา และนำเสนอศาลทหมายปล่อยตัวต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีของ นางมณตา หยกรัตนกาญ หรือหญิงไก่ ผู้ต้องหาในข้อหาแจ้งความเท็จ ข้อหาพยายามค้ามนุษย์ และข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และนางกิมเอ็ง แซ่เตีย หรือ กมนทรรศน์ ธนธรณ์โฆษิตจิร ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงและคดีความผิดตามมาตรา 112 ว่า เข้าหลักเกณฑ์พระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้หรือไม่ นางชฎาพร กล่าวว่า สำหรับนางมณตาและนางกิมเอ็งนั้น ขณะนี้เป็นผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี จึงยังไม่ได้รับสิทธิตามพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้