ลูกช็อก เพิ่งมาไหว้แม่เมื่อวาน เจออีกทีกลายเป็นศพเปลือยในห้องนอน ตร.ปิดล้อมชายต้องสงสัย ก่อนบุกรวบคนร้ายทันควัน สารภาพฆ่าผู้ตายจริง แต่ไม่ได้ขืนใจ ชาวบ้านฮือจะรุมตื้บ
วันที่ 13 ส.ค. ร.ต.อ.(หญิง) กนกวรรณ วัดวิลัย รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตในห้องเช่า เยื้องบริษัทกรไทย จำกัด ถนนทางเข้าวัดโพธิ์สามเรือน หมู่3 ต.สามเรือน อ.เมือง จ.ราชบุรี จึงรุดไปตวรจสอบพร้อม พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.ณรงค์เดช ศักดิ์สมบูรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ราชบุรี แพทย์ ร.พ.ราชบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรราชบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่าห้องที่ 9 บริเวณหน้าห้องพบนายสุเมธ โฆสิตาภา อายุ 25 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิตยืนร้องไห้อยู่ เมื่อเข้าไปดูภายในห้องนอนพบศพ นางธนวัน ฤทธิ์เดช อายุ 55 ปี คนงานฝ่ายผลิตกระทิสด บริษัทกรไทยจำกัด นอนเสียชีวิตในสภาพเปลือยกาย มีผ้าปิดที่บริเวณตา บริเวณลำคอมีร่องรอยการถูกรัด และข้อมือมีรอยคล้ายถูกบีบ มีร่องรอยคล้ายถูกข่มขืนและมีเลือดไหลออกทางทวารหนัก
สภาพที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุยังพบเชือกไนล่อนเส้นใหญ่และพลาสติกคล้ายถุงพลาสติกที่ไว้ใช้สำหรับก่อเหตุตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนทรัพย์สินของผู้ตายยังอยู่ครบ ขณะที่บริเวณโดยรอบพบประตูไม้ด้านหลังบ้านมีรอยถูกงัดและมีรอยเท้าเดินเข้าไปในป่าหลังบ้าน
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนนายสุเมธ ให้การว่า เมื่อเวลา 09.00 น.ตนเดินทางมาหาแม่ที่บ้าน แต่เมื่อเคาะประตูเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงออกไปซื้อข้าวเพื่อจะกลับมากินข้าวกับแม่ พอกลับมาถึงประมาณ 10.00 น. ก็เคาะประตูเรียกอีกครั้ง พร้อมทั้งโทรศัพท์หาก็ติดต่อแม่ไม่ได้ ตนจึงเดินอ้อมไปด้านหลัง ระหว่างนั้นก็สังเกตเห็นว่ามีคนดินอยู่แต่ไม่ได้เอะใจอะไร จึงรีบเข้าไปข้างในแต่กลับพบว่ากลอนประตูตกอยู่ที่พื้น จึงรีบเข้าไปหาแม่พร้อมเรียกไปด้วย จากนั้นก็ได้เปิดไฟกระทั่งเห็นแม่อยู่ในสภาพดังกล่าว จึงรีบเอาผ้ามาคลุมร่างไว้ ก่อนแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
ชาวบ้านมามุงดูอยู่ในที่เกิดเหตุ
ขณะที่นายชาญชัย โฆสิตาภา อายุ 28 ปี ลูกชายคนรองให้การว่า เมื่อคืนวันที่ 12 ส.ค.เวลาประมาณ 19.00 น. ตนเพิ่งเข้ามาหาแม่เนื่องในวันแม่และซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่มาให้ เพราะแม่อยากได้ จากนั้นก็พูดคุยกันตามปกติ ก่อนจะกลับบ้านไป และผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงแม่ก็โทรศัพท์มาหา โดยไม่มีรางบอกเหตุใดๆ กระทั่งทราบข่าวจากน้องชายว่าแม่เสียชีวิตแล้วดังกล่าว
ตำรวจบุกรวบคนร้ายได้ทันควัน
จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้ตาย อยู่บ้านหลังนี้เพียงลำพัง อีกทั้งยังเป็นคนอัธยาศัยดี เช้าๆ เวลาประมาณ 7 โมง ผู้ตายจะออกมากวาดหน้าบ้านทุกเช้า และข้างห้องทั้งซ้ายและขวา ไม่มีคนมาเช่าอาศัย จึงมีผู้ตายอยู่ห้องเดียว ส่วนลูกๆ ก็จะสลับกันมาหาทุกวันเป็นประจำ
ต่อมาเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดราชบุรี ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้สืบสวนหาข่าวจนทราบว่ามีผู้ต้องสงสัยมาเช่าห้องพักอยู่ห่างจากห้องที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบห้องเลขที่ 82/3 หมู่ 3 ต.สามเรือน พบว่าล็อกกุญแจ จึงเดินอ้อมไปด้านหลังก็เห็นมีร่องรอยการเดินเข้าออกใหม่ๆ และมีรองเท้าถอดวางอยู่
เจ้าหน้าที่จึงตะโกนเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบกลับ ก่อนตัดสินใจงัดประตูแล้วเข้าไปตรวจสอบบริเวณด้านใน ซึ่งไม่พบว่ามีใครอยู่ ก่อนจะไปสำรวจในห้องน้ำกระทั่งพบชายต้องสงสัยซ่อนตัวอยู่ใต้อ่างล้างมือ ทราบชื่อต่อมานายวิสุทธิ์ ฝอยทับทิม ชาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี มีอาชีพเป็นจับกังทำงานก่อสร้างอยู่ใน ต.สามเรือน เพิ่งมาเช่าห้องได้ประมาณ 1 เดือน และมาทำงานก่อสร้างประมาณ 10 กว่าวัน ซึ่งก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าผู้ตายจริง แต่ขอปฎิเสธเรื่องข่มขืน
ด้าน พล.ต.ต.อนุภาพ กล่าวว่า ซึ่งตรงนี้เราก็รอผลพิสูจน์ ดีเอ็นเอจากแพทย์อีกครั้ง หลังจากคนร้ายได้ก่อเหตุก็ได้แอบหลบเข้าไปอยู่ในป่าด้านหลังบ้าน จากนั้นก็แอบเข้ามานอนในห้องพักตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่ได้พบร่องรอยและหลักฐานบางอย่างที่ตรงกันจึงเชื่อว่าคนร้ายอยู่ในห้องดังกล่าวจึงได้งัดกุญแจและเข้าไปจับกุมไว้ได้ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมคนร้ายและกำลังจะนำตัวขึ้นรถ มีชาวบ้านและญาติผู้ตายทราบข่าวต่างเดินทางมาเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งตะโกนด่าสาปแช่ง และเกิดการชุลมุนจะบุกเข้าทำร้ายผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่จึงได้รีบนำตัวขึ้นรถขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะเกรงว่าจะถูกประชาทัณฑ์
