เสี่ยอ้วน อ้างไม่รู้ยิงต่อหน้าองค์พระ เห็นข่าวประกาศล่า ตั้งใจหนีไปให้สุดแต่ไม่รอด!

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน ผู้ต้องหาฆ่านางสาวปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ สปาย และนายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ ฟอส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2561 เวลาประมาณ 16.05 น. บริเวณลานจอดรถหน้าเขาชีจรรย์ ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. สอบปากคำ

นายปัญญา กล่าวสั้นๆ กับผู้สื่อข่าวขณะถูกคุมตัวกลับไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพว่า ได้เห็นที่ ผบ.ตร.พูดว่ามีทางเลือก 2 ทาง คือทางตันกับทางตาย ตอนนั้นก็เลือกตัน คือหนีไปให้ถึงที่สุด

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายปัญญา รับสารภาพว่าก่อเหตุจริงและได้ดูข่าวในโซเชียลที่ตนพูดว่า มี 2 ทางเลือก คือทางตันและทางตาย เขายอมรับว่ากลัว โดยอยู่ที่ฝั่งกัมพูชา ไม่ได้สะดวกสบาย ใช้ชีวิตปกติได้บ้าง พอจะดูข่าว ดูโซเชียลได้บ้าง ทั้งนี้ นายปัญญา เพิ่งรู้ว่าตัวเองก่อเหตุหน้าองค์กระแกะสลักที่เขาชีจรรย์ ตอนแรกคิดว่าเป็นรูปแกะสลักธรรมดา

“พอรู้ว่าเป็นพระ เขาก็กลัว และเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขากลัวสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน ปืนไม่ลั่นตั้ง 2-3 นัด” ผบ.ตร.กล่าวหลังสอบปากคำนายอ้วน