กราบขมาหลวงพ่อเขาชีจรรย์! เสี่ยอ้วนลั่นไม่รู้จุดลงมือฆ่าโหดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 22 ส.ค. ที่ เขาชีจรรย์ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ร่วมกับ พล.ต.ต. นันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาจอมเทียน นำตัว นายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดี ฆ่าน.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี และ นายอนันตชัย จริตรัมย์ อายุ 21 ปี เสียชีวิต ที่บริเวณลานจอดรถเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ได้แก่ จุดเกิดเกิดเหตุ, จุดทิ้งปืน ที่ใกล้สภ.พลูตาหลวง, จุดเช่ารถ ย่านพัทยาใต้, ปั๊มปตท.บางสะเหล่ และจุดสุดท้ายบ้านเช่า ย่านนาเกลือ ซึ่งเป็นจุดวางเเผน ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มาเฝ้าดูรวมไปถึง ครอบครัวของ น.ส.ปวีณา และ นายอนันตชัย ด้วย
โดยในวันเกิดเหตุ นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี นั่งอยู่ภายในรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วีสีขาว ป้ายแดง โดยมี นายเกียรติศักดิ์ หรือบอนด์ สุรางค์แสงมีบุญ อายุ 35 ปี เป็นคนขับรถ ส่วน นายณรงค์ หรือ บ่าว นั่งอยู่ด้านหลัง ซึ่งขับรถมาจอด หันหน้าออกถนน ส่วนรถของ ผู้ตายทั้ง 2 คน จอดรถอยู่ทางด้านหน้า ซ้ายมือ และมีรถเก๋ง โตโยต้า ยาริส จอดขวาง ซึ่งเป็นรถ นายกฤษณะ หรือมด ศรีสุข อายุ 22 ปี และ นายจิรศักดิ์ หรือป๊อปปี้ อุนัยบัน อายุ 34 ปี อยู่ด้านในรถ
จากนั้น เมื่อเห็น นายปัญญา เห็น น.ส.ปวีณา และนายอนันตชัย กำลังจะเดินมาขึ้นรถ นายปัญญา ก็ได้ลงจากรถ เอาอาวุธปืน 2 กระบอกที่เตรียมมาจ่อศรีษะ น.ส.ปวีณา ก่อนที่จะล้มลงนอน ด้าน นายอนันตชัย เห็นเหตุการณ์จึงวิ่งหนีเข้ารถ แต่นายปัญญา หรือ เสี่ยอ้วน เห็นจึงได้หันกระบอกปืนมายิงนายอนันตชัย คารถยนต์ จากนั้น นายณรงค์ ก็ยิงซ้ำก่อนจะพากันวิ่งขึ้นรถและขับหนีออกไปทันที
โดยหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จ นายปัญญา ได้หันหน้าไปทางพระพุทธรูปเขาชีจรรย์ ก่อนจะก้มลงกราบ เป็นการกราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจาก่อนหน้านี้ นายปัญญา อ้างว่า ไม่ทราบว่าจุดที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเคารพของชาวชลบุรี ก่อนที่ตำรวจจะคุมตัวขึ้นรถไปทำแผนในจุดอื่นๆ
ขณะเดียวกัน ด้าน นางจอมศรี ชมพูพื้น อายุ 43 ปี แม่น้องฟอส กล่าวทั้งน้ำตา ว่า เมื่อมาเห็นเหตุการณ์ที่ นายปัญญา ได้ลงมือสังหารลูกชายตนเองแล้ว ยิ่งทำใจไม่ได้ ตนรู้สึกเสียใจและรับไม่ได้ แต่อีกใจหนึ่ง ก็ดีใจ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับตัวคนร้ายได้ครบทุกคนแล้ว ซึ่งตนรู้ข่าวในวันที่ 15 ส.ค. ตนคิดว่าเป็นข่าวดี เนื่องจาก วันที่ 16 ส.ค. เป็นวันเกิดของน้องฟอส ตนจึงอยากให้วิญญาณลูกชายไปสู่สุขติ ไม่จองเวร และตอนนี้ตนได้ให้อภัยแก่นายปัญญา และ อยากให้ นายปัญญา รับโทษ แบบเดียวกับที่ลูกชายและ น้องสปายโดน คือ ประหารชีวิต
ทั้งนี้ ในวันที่ 23 ส.ค. (พรุ่งนี้) จะนำตัว นายปัญญา ไปฝากขังที่ ศาลจังหวัดพัทยา เพื่อดำเนินคดีต่อไป
