ผบ.ตร. ส่ง ‘บิ๊กโจ๊ก’ สางคดี ข่มขืนแหม่ม วัย 19 ปี ที่เกาะเต่า ระบุไม่ให้เรื่องอึมครึมอยู่แล้ว ถ้าตำรวจผิดก็ดำเนินการตามกฎหมาย ขอทุกคนใจเย็น ซัดเพจดังประโคมข่าว อย่าทำตัวเป็นนักเลงคีย์บอร์ด คาด 7 วันรู้เรื่อง
จากกรณีสาวชาวอังกฤษ วัย 19 ปี อ้างว่าถูกวางยาและข่มขืนที่หาดทรายรี อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความคดีข่มขืน รับแจ้งเพียงคดีทรัพย์สินสูญหาย พร้อมขอร้องให้ตำรวจดูกล้องวงจรปิดที่บาร์ เเต่ตำรวจอ้างว่ากล้องวงจรปิดเสียเเละพยายามปิดข่าวให้เงียบ จึงนำเรื่องทั้งหมดไปเเจ้งตำรวจอังกฤษ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่มขืนแหม่ม / ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้ต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะทางตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จะทราบผลภายใน 7 วัน โดยวันที่ 28 ส.ค.นี้ จะส่งพล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐ.) ลงพื้นที่ตรวจสอบ อาจจะมีอะไรเพิ่มขึ้น ทุกอย่างจะกระจ่าง ตนไม่ให้อึมครึมอยู่แล้ว ถ้าตำรวจผิดก็ฟันอยู่แล้ว แต่ถ้าคนแจ้งคลุมเคลือค่อยว่ากัน ใจเย็นๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ยิ่งเป็นชาวต่างชาติด้วย
เมื่อถามถึงกรณีมีนักท่องเที่ยวบางกลุ่มในเกาะเต่า มีลักษณะมาแจ้งความเพื่อเคลมประกันของหาย พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ในส่วนนี้มีข้อสังเกตอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง สิ่งที่ท่านรู้ตำรวจก็รู้ สิ่งที่ท่านได้ข่าวมาพวกเราเช็กหมด เราเช็กทุกมิติ ไม่ต้องห่วง หลังจากนี้จะต้องสร้างการรับรู้ว่าอะไรจริง อะไรเท็จ ตอนนี้ตนเร่งและกำชับไปเรียบร้อยแล้ว
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่าโรงพักเกาะเต่า ไม่รับแจ้งความคดีอื่น นอกจากคดีทรัพย์สินสูญหาย ในส่วนนี้ตำรวจก็ฟังไว้ เรื่องให้บริการประชาชน ตำรวจทำอยู่แล้ว ตอนนี้ได้สั่งการไปในระดับผู้บังคับการจังหวัด หากโรงพักไหนไม่รับแจ้งความ ต้องโดนดำเนินการทางปกครอง
เมื่อถามถึงส่วนจะต้องประสานงานไปยังผู้เสียหายชาวอังกฤษ มาให้ปากคำกับทางตำรวจหรือไม่นั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า มีระบบ มีขั้นตอนอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง เราทำทุกมิติอยู่แล้ว
ถามต่อว่าขณะที่ตอนนี้มีเพจในเฟซบุ๊ก ประโคมข่าวนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทางตำรวจจะมีมาตรการอะไรหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า จะต้องดู เดี๋ยวนี้เพจเปิดกว้างอยู่แล้ว สิ่งดีๆ ก็ควรเอามาลง สิ่งไม่ดีอยู่ที่จิตสำนึกของเขาอยู่แล้วว่าเขาคิดอย่างไร หากเข้าข้อกฎหมายก็คงต้องดำเนินการ เพราะเรื่องของกฎหมายไม่ใช่เรื่องล้อเล่น อย่าทำตัวเป็นพวกนักเลงคีย์บอร์ด กดไปเรื่อย สร้างความเสียหายไปเรื่อย
