เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 ธ.ค. พ.ต.ท.วสุ เพ็งที สารวัตรเวร สภ.เมือง จ.นราธิวาส รับแจ้งจากนางสุวลักษณ์ สกุลจีน อยู่บ้านเลขที่ 2/1 ถนนอดุลตานนท์ เขตเทศบาลเมือง จ.นราธิวาส ว่าบ้านถูกคนร้ายงัดเข้าไปบุกค้นขโมยทรัพย์สินไปหลายรายการ จึงลงบันทึกประจำวันพร้อมจัดกำลังจำนวนหนึ่ง พร้อมประสานชุดวิทยาการพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธร จ.นราธิวาส รุดไปตรวจสอบและตรวจหลักฐาน
ที่เกิดเหตุพบบ้านหลังดังกล่าวชื่อบ้านพรรณิการ์ เป็นบ้านตึก 2 ชั้น ตั้งอยู่ริมถนนอดุลตานนท์ เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส โดยคนร้ายใช้เหล็กแหลมบางเสียบเข้าไปตรงที่ล็อกกุญแจตรงประตูทางเข้าข้างโรงจอดรถแล้วเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้าน จนกระจัดกระจายทั่วห้องบริเวณชั้นล่าง
หลังจากที่นางสุวลักษณ์ สุกลจีน เจ้าของบ้านตรวจสอบทรัพย์พร้อมกับเจ้าหน้าที่พบว่า ห้องเก็บของซึ่งมีตู้นิรภัยจำนวน 2 ห้องๆละ 1 ตู้ ถูกคนร้ายช่วยกันกันงัดแล้วเอาทรัพย์สิน เป็นสร้อยคอทองคำจำนวนหลายเส้น ทองรูปพรรณ จี้เพชร แหวน สร้อยมุข หลายรายการ ที่ซื้อสะสมมาตลอด 20 ปี มูลค่าเกือบ 2 ล้านบาทหายไป จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเก็บลายนิ้วมือแผงตามจุดต่างๆภายในบ้านทั้งหมด 2 ห้อง ที่ถูกคนร้ายรื้อค้น เพื่อนำมาเป็นหลักฐานและเปรียบเทียบกับแฟ้มอาชญากรรมในพื้นที่ เพื่อตามตัวคนร้ายกลุ่มนี้มาลงโทษต่อไป
นางสุวาลักษณ์ ให้การว่า บ้านหลังดังกล่าวตนไม่ค่อยมาพักและส่วนใหญ่จะไปนอนพักอยู่กับครอบครัวอีกหลังหนึ่ง ซึ่งเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ตนกับลูกน้องนำสายยาง เพื่อมาทำความสะอาดบ้านหลังดังกล่าว จึงเข้ามาเพื่อจะเปิดประตูบ้าน แต่กลับพบว่าประตูบ้านไม่ได้ล็อก จึงเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านพบข้าวของถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย ด้วยอาการตกใจจึงเรียกลูกน้องมาตรวจสอบอีกครั้ง
พบว่าในห้องเก็บของ ซึ่งเป็นห้องกระจกทั้ง 2 ห้อง พบคนร้ายใช้เหล็กแข็งงัดตู้นิรภัยจนได้รับความเสียหายทั้ง 2 ตู้ ในสภาพประตูถูกเปิดง้างไว้ โดยทรัพย์สินภายในหายเกลี้ยงทั้ง 2 ตู้ จึงขอให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามคนร้ายกลุ่มนี้มาลงโทษโดยเร็ว เพราะทรัพย์สินที่สะสมไว้นั้นตนซื้อมาเมื่อ 20 ปี ที่แล้วซึ่งในตอนนั้นราคาทองเพียงบาทละ 4,000 บาท ซึ่งถ้าเทียบกับสมัยนี้แล้ว จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท
